บิทคอยน์ ในมุมมองของ Paul Krungman เป็นอย่างไร น่าสนใจหรือไม่

บิทคอยน์ในมุมมองของ Paul Krungman

Date

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on telegram
Share on skype
Share on whatsapp
Share on email
Spread the love

ผมได้มีโอกาสอ่านบทความของ Paul Krugman ด้วยความที่ผู้ใหญ่ที่ผมเคารพส่งมาให้อ่านว่า คนนี้เขียนต้องฟัง ผมเป็นคนเปิดใจอยู่แล้วครับ แล้วผมก็สนับสนุนให้ทุกคนเปิดใจฟังคนที่คิดต่างหรือเห็นต่างกับเรานะครับ มันเป็นเรื่องที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าใครไม่รู้จัก Paul Krugman เค้าคือคนที่พูดถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมโลกใน Master Class ครับ แล้วก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวิทยาศาสตร์เศรษฐศาสตร์ ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ

ผมชอบ Paul Krugman นะ แล้วก็คิดว่าเป็นอาจารย์ใครหลายๆ คนด้วย มาฟังมุมมองของ Paul Krugman ที่มีต่อบิทคอยน์กันว่าเค้าคิดยังไง ด้วยความที่คนที่ติดตามแก เรียกร้องเยอะมากอยากฟังความเห็นของเค้าเกี่ยวกับบิทคอยน์

Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin
Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin

เริ่มต้นด้วย Paul Krugman เค้าเขียนถึงประวัติของบิทคอยน์และระบบที่ใช้พิสูจน์ถึงความเป็นเจ้าของ ระบบที่ทำลายได้ยาก จนมาถึงปัจจุบันที่เราใช้บิทคอยน์ซื้อบ้าน รถ จ่ายค่าใช้จ่ายรวมไปถึงลงทุน แล้วก็อื่น ๆ อีก

แต่ใน 12 ปีที่ผ่านมาทำไมบิทคอยน์ถึงไม่ได้เข้ามามีบทบาทใดๆ เลยในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เหมือนกับที่เรามักจะได้ยินว่ามันเอาไปใช้จ่ายได้ (means of payment) นอกจากการเอาไว้เก็งกำไร และเอาไว้ใช้ในกิจกรรมทางการฟอกเงิน ล่าสุดที่เอาไว้ใช้เรียกค่าไถ่จากเหตุการณ์ยึดระบบควบคุมท่อส่งนำ้มัน Colonial Pipeline

12 ปีที่แล้วมันมีเทคโนโลยีอีกหลายอย่าง เช่น Venmo(ปัจจุบันรองรับคริปโตแล้วนะ) ที่เอาไว้แชร์ค่าใช้จ่ายกันเวลาไปกินอาหารนอกบ้าน หรือซื้อผลไม้จากร้านข้างทาง ดูอย่าง iPad ที่ถูกสร้างขึ้นมาในปี 2010 หรือ Zoom ที่เกิดขึ้นมาในปี 2012 หลาย ๆ เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวัน แต่ทำไมคริปโตเคอเรนซี่ถึงยังไม่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตเราเลย

Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin
Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin

เทคโนโลยีนี้มันแก้ปัญหาอะไร มันทำให้ถูกลง ง่ายขึ้นหรือทำอะไรได้ดีกว่าเดิมเมื่อใช้เทคโนโลยีนี้ ผมยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเลย

Paul Krugman กล่าว

ทำไมนักลงทุนถึงยอมที่จะจ่ายเงินก้อนโตเพื่อครอบครองดิจิทัลโทเค็น ในขณะที่ราคามันแกว่งขนาดนั้น ถึงแม้ว่ามูลค่ามันจะขึ้นไปถึง 2 ล้านล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ และครึ่งนึงของมูลค่าถูกครอบครองด้วยบริษัทของสหรัฐอเมริกา

ทำไมคนถึงยอมจ่ายกับสิ่งที่มันดูเหมือนว่ามันทำอะไรไม่ได้เลย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือคนที่เข้ามาลงทุนก่อนได้เงินไปมากมาย และประสบความสำเร็จในการดึงนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามา

ฟังดูมันเหมือนฟองสบู่ของการเก็งกำไรหรือไม่ก็แชร์ลูกโซ่ ซึ่งฟองสบู่ของการเก็งกำไรส่งผลกับแชร์ลูกโซ่โดยธรรมชาติของมัน และมันก็มีรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ที่อยู่ได้นานในอดีตเช่น Bernie Madoff ที่ออกมาหลอกลวงกว่าสองทศวรรต ซึ่งจริงๆ อาจนานกว่านั้นหากไม่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจก่อน

แชร์ลูกโซ่ที่อยู่ได้นานต้องอาศัยเรื่องเล่า และเรื่องเล่าของคริปโตมันทำได้อย่างดีทีเดียว

Paul Krugman กล่าว
Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin
Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin

ข้อแรกกลุ่มคนที่จุดกระแสเรื่องคริปโต เป็นกลุ่มคนที่พล่ามเรื่องเทคโนโลยีได้ดี ใช้ศัพท์แสงทางเทคนิคเพื่อที่จะโน้มน้าวคนอื่นได้เห็นถึงการนำเสนอวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี ซึ่งจริง ๆ แล้ว Blockchain มันไม่ใช่เรื่องใหม่ และยังนำมันเอาไปใช้ประโยชน์จริง ๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ

ข้อสองมันถูกใช้เป็นเครื่องมือของพวกคลั่งเสรีนิยม เอามาทิ่มแทงระบบเงินกระดาษ ว่ารัฐเป็นคนพิมพ์เอง ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่จับต้องได้ค้ำ มันจะต้องล่มสลายในวันใดวันนึง ซึ่งก็จริง แต่ก็ดูสิ ผลเป็นยังไงล่ะตั้งแต่ยกเลิก Gold Standard ที่ใช้มาเก้าสิบปีที่แล้ว ก็ยังดีอยู่

งั้นคริปโตเคอเรนซี่พวกนี้กำลังจะพังเร็วๆ นี้ใช่ไหม ผมบอกได้เลยว่าไม่จำเป็น แต่สุดท้ายแล้วบิทคอยน์กับทองก็จะเจอปัญหาเดียวกัน ลองดูสิไม่มีใครเอาทองไปซื้อข้าวของถึงแม้ว่ามันจะเป็นของที่มีค่ามากเนื่องจากคุณสมบัติของมันเอง ซึ่งมันไม่ได้มีคุณสมบัติที่ดีของความเป็นสกุลเงิน(Currency) ที่มีประโยชน์ใช้ได้จริงๆ ไม่มีใครหิ้วทองแท่งไปซื้อบ้านซื้อรถจริงไหม

ที่สำคัญกำลังซื้อของคุณไม่คงที่แบบสุดๆ

Paul Krugman กล่าว
Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin
Paul Krugman Opinion cryptocurrency bitcoin

ย้อนกลับไปตอนปี 1924 สิ่งที่ John Maynard Keynes พูดไว้ไม่ผิดเพี้ยนเลย เค้าเรียก Gold Standard ว่า “Barbarous relic” เหมือนคนเถื่อนที่บูชาหินสีเหลือง ๆ และความคิดนั้นมันยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่ คริปโตเคอเรนซี่ หนึ่งหรือสองสกุลจะมีอายุยืนยาวแบบนั้นเช่นกัน

แต่ก็ไม่แน่ถ้าหากภาครัฐเข้ามาจัดการกับพวกที่ใช้คริปโตเคอเรนซี่กระทำความผิด หรือประสงค์ไม่ดี ซึ่งไม่เคยคิดทำกับทองมาก่อน และทำให้มันไม่ได้ไปถึงฝั่งฝันของการมีสภาพเป็นเหมือนทองอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคาดหวังไว้

แต่ไม่มีอะไรต้องกังวลมากนักเพราะบิทคอยน์ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือมีความสำคัญในบทบาทเชิงเศรษฐกิจเลย และมันก็ไม่มีผลอะไรกับคนที่ไม่ได้เข้าไปเล่นในเกมส์ของคริปโต

ส่วนตัวผมไม่ได้มีความเห็นขัดกับ Paul Krugman เลยแม้แต่น้อย

แล้วก็ไม่แปลกใจด้วยทำไมเค้าถึงเขียนแบบนี้ มันมีหลายๆเรื่องที่เค้าไม่ได้พูดถึงแล้วก็ไม่ได้แตะมัน เพราะเค้าไม่อยากแตะมัน ถ้ามองผ่านแว่นธุรกรรมทางเศรษฐกิจมันเป็นจริงตามนั้น ลูกเต๋ามีตั้งหกด้าน มนุษย์มักจะเลือกมองในด้านที่ตัวเองอยากมองเสนอ ผมเองก็เป็น ผมถึงต้องอ่านความคิดเห็นคนอื่นที่เห็นต่างจะได้สะท้อนความคิดตัวเอง

ผมอยากให้ผู้อ่านพิจารณาด้วยตัวเอง ไม่ใช่เชื่อเพราะเป็นความเห็นใคร ไม่ได้เชื่อเพราะส่ิงที่ร่ำเรียนมา ผมไม่ได้เถียง Paul Krugman นะเห็นด้วย(หลายๆ คนคงคิดว่า นี่แหละกำลังเถียงอยู่ 555) แต่ไม่ทุกมุมเพราะขอบเขตของบทความ มันถูกตีไว้แค่นั้น ผมเทียบไม่ได้เลยกับคนที่ได้รางวัลโนเบล เอาไว้ตอนสองดีกว่าจะมาขยายความเรื่องพวกนี้ต่อ

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on telegram
Share on skype
Share on whatsapp
Share on email

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

More
articles