
มองย้อนไปปี 2021 โลกคริปโตมีประเด็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ปี 2021 ถือว่าเป็นปีที่สำคัญของ cryptocurrencies ไม่ว่าจะเป็น BTC หรือ ETH ที่แข่งกัน ATH อยู่ตลอด นอกจากนี้ total market cap ของ crypto ได้ทำสถิติไว้ที่อีก $3trillion อีกด้วย
Bitcoin ได้ปรับตัวขึ้นเกือบ 100% จาก ATH เก่าในปี 2021 และมี market cap เพิ่มขึ้นกว่า $545 billion
เมื่อเทียบกับทองตำที่มีราคาต่ำลง 26% NASDAQ ที่ปรับตัวขึ้น 31% บิทคอยน์ถือว่ามีผลงานที่น่าประทับใจ
นอกจาก BTC แล้ว เหรียญอื่นๆก็ต่างมี performance ที่น่าชื่นชมเช่นกัน อย่างเช่น

Bitcoin market share dominance ปรับตัวลดลงจาก 70% เหลือ 43% หลังจากการเติบโตของ layer 1 protocols
Onchain volume ของทั้ง Bitcoin และ Ethereum ได้ปรับตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งคู่ โดยที่ Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 317% จาก $1 trillion ใน 2020 เป็น $4.2 trillion ใน 2021 ในขณะที่ Ethereum เพิ่มขึ้นกว่า 729% จาก $403 billion เป็น $3.3 trillion ในช่วงปี 2021 onchain volume ของ Bitcoin นั่นมีเยอะกว่า Etheruem กว่า 1.2 เท่าเลยก็ว่าได้
Stable coins
ใน 2021 stable coins ถือเป็นหนึ่งใน cryptocurrencies ที่เติบโตอย่างชัดเจนเช่นกัน โดยที่ aggregate stable coin supply เติบโตกว่า 388% ในปีที่ผ่านมาจาก $29billion ถึงสถิติใหม่ที่ $140billion
การใช้ stable coins ก็ได้แพร่หลายมากขึ้นเช่นกันหลังจาก transaction volume เกิน $570 trillion ใน 2021 เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 370% เลยทีเดียว
Mining
ในปี 2021 นี้มีหลายเหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในวงการขุด Bitcoin เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ไม่ค่อยสูงจึงทำให้การขุด Bitcoin เป็นที่นิยในประเทศจีนก่อนที่จะถูกลงดาบสั่งแบนในช่วงกลางปี 2021 ถ้าหากเราย้อนดู timeline สำคัญๆที่เกิดขึ้นจะมีดังนี้
May 21 – รัฐบาลกลางของจีนได้ประกาศปราบปรามการขุดและเทรด cryptocurrencies
May 25 – Mongolia ถือว่าเป็นจังหวัดแรกที่ตอบสนองโดยออกมาต่อต้านเกี่ยวกับการปราบปรามการขุดและเทรด cryptocurrencies
June 9 – Power supplies ใน Xinjian Zhundong ถูกปิดเป็นที่แรก
June 18 – เหมืองขุด Bitcoin กว่า 26 ที่ถูกสั่งปิดโดยรัฐบาล
หลังจากที่เหมืองโดนปิด ส่งผลให้นักขุดบางส่วนได้ทำการขายอุปกรณ์ต่างๆออกไปหรือได้ย้ายเหมืองไปยังประเทศอื่นเพื่อทำการขุดต่อ
ผลกระทบจากการสั่งปิดเหมืองในรอบนี้ทำให้ค่า hash rate ของ Bitcoin ลดลงกว่า 50% ในช่วงกลางปีแต่ก็สามารถปรับตัวกลับขึ้นมาได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีทำให้ year to date ของ hash rate ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 19.6%
ส่วนใน Ethereum ค่า hash rate ได้ฟื้นตัวเร็วกว่าหลังจากที่เหมืองถูกปิดไปในเดือนมิถุนายน ค่า hash rate ของ Ethereum ใช้เวลาเพียงราวๆสองเดือนเพื่อทำ ATH ใหม่ที่ 274 TH/s สำหรับ year to date ของ Ethereum แล้วก็ปรับตัวขึ้นมากว่า 187% เลยทีเดียว
เหตุผลที่ทำให้ค่า hash rate ของ ETH ฟื้นตัวไวกว่าเนื่องจากนักลงทุนในจีนบางส่วนยังคงแอบขุดกันอยู่เนื่องจากการขุด ETH ใช้ GPUs ที่ scale น้อยกว่าการขุด BTC นั่นเอง
ในช่วง Q3 การขุด BTC ถือว่า productive ที่สุดหลังจากเกิดการ shutdown ในจีน ส่งผลให้ความยากในการขุดลดลง
นอกจากนี้การสั่งปิดเหมืองในจีนยังส่งผลในเรื่องอื่นๆอีกด้วยอย่างเช่น
- ในเดือนตุลาคมประเทศสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็น largest hub ของ Bitcoin mining operations และ businesses
- การเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆอย่างเช่น North America, Russia, Central Asia, และ Europe
ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2021 ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของ public/private mining company เลยก็ว่าได้หลังจากที่สามารถ raise fund ได้ตั้งแต่ $50M – $650M
Based จาก SEC มีมากกว่าครึ่งล้าน Bitcoin ASIC miner ที่ถูกสั่งโดย 20 public mining company สำหรับปี 2022 นี้
Miner revenue
เราคำนวน Miner revenue โดยใช้สมมติฐานว่าทุกคนที่ขุด ขาย Bitcoin และ ETH ทันทีที่ขุดได้ ซึ่งในความเป็นจริงเหล่านักขุดมักจะไม่ได้ทำแบบนี้
ในรอบปีที่ผ่านมานักขุด Bitcoin ได้ทำรายได้ไปกว่า $15.3 billion เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 206%
ถึงแม้ว่า Ethereum พัฒนาระบบมาใช้ EIP 1559 ซึ่งอาจะส่งผลต่อรายได้ของนักขุดแต่ในปี 2021 รายเของนักขุด ETH เพิ่มขึ้นกว่า 678% หรือคิดเป็นเงินราวๆ $16.5 billion ซึ่งมากกว่า BTC เสียอีก ซึ่งมากจาก Transaction fee เนื่องมาจากกานเติบโตของ NFT ในไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยคิดเป็น 27.8% ของ total revenue
Spot volume
ในช่วงธันวา 2020 และ มกรา 2021 volume การเทรดในตลาด spot ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเพิ่มขึ้นกว่า 318% แตะ $917billion
โดยที่ volume ของ spot trading ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้ทำ ATH ในเดือนพฤษภาคม รวมมูลค่ากว่า $2.2 trillion ก่อนที่จะปรับตัวลงในเดือนถัดมา
ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังๆค่อยๆ ฟื้นตัวจาก $651 billion เป็น $1.4 trillion ในเดือน11
Binance ถือว่าเป็น exchange ที่มี market share ของ spot trading เยอะที่สุดโดยที่เคยทำมากสุดที่ 74% ของตลาดทั้งหมดและในปี 2021 market share ของ Binance ได้เพิ่มขึ้น 9% จาก 57% เป็น 66%
ส่วน exchange อื่นๆที่รองลงตามลำดับก็คือ
- Coinbase 12.3%
- FTX 6.6%
- Kraken 3,2%
ส่วนเหรียญที่ถูกจับคู่ในการทำการซื้อขายเหรียญแต่ละครั้งนั้นคงหนีไม่พ้น USDT ที่มี market share สูงสุดถึง 63% ส่วนอับดับที่รองลงมาก็คือ USD 14.8% และ BTC 7.5%
Grayscale
Grayscal Bitcoin investment Trust ก็ยังเป็นกองทุนบิทตอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมี Bitcoin ในครอบครองถึง 646,000 BTC (3.1% ของ BTC ทั้งหมด) เมื่อเปรียบเทียบกับ ราคา Bitcoin year to date ที่ขึ้นมา 95% (เดือนพฤจิกายน 2021) GBTC เติบโตขึ้นมา 42%
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2021 เป็นครั้งแรกที่ GBTC มีการซื้อขายต่ำกว่าราคา Net Asset Valueเป็นครั้งแรก ซึ่งอาจเกิดจากการมาของ ETFs ที่มีแนวโน้มจะได้รับอนุมัติ และอนุมัติเรียบร้อยแล้วในประเทศแคนาดา ปัจจุบัน GBTC ก็ยังมีมูลค่าต่ำกว่า NAV ประมาณ 14%
Bitcoin Derivatives
ค่าเฉลี่ยของ volume การเทรดตลาด Futures อยู่ที่ราวๆ $869billion ในเดือนพฤศจิกายน 2020 และปรับตัวขึ้นจนทำ ATH ในเดือนพฤษภาคมที่ $2.5trillion ก่อนที่จะทยอยปรับตัวลงเรื่อยๆหลังจากที่เกิดการเทขายในเดือนพฤษภา ก่อนที่จะปิดเดือนพฤศจิกายนที่ $1.4million
CME ได้เปิดให้นักลงทุนได้เข้ามาซื้อ BTC และ ETH ในตลาด derivatives นอกจากนี้ยังมีการเกิดเปิด BTC mini futures ในช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยอีกด้วย Futures open interest rate ของ CME BTC futures ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก $1.6billion เป็น $3.9billion
สำหรับ Proshares Bitcoin Strategy ETF หรือ BITO หลังจากเปิดทำการวันแรกก็มี trading volume กว่า $1billion และหลังจากนั้น วันต่อมาราคาของ BTC ได้พุ่งทำ ATH ใหม่ที่ $66,974
CME หรือ Chicago mercantile exchange ยังเป็นตัวชี้วัดที่ดีในการจับตาการเคลื่อนไหวของสถาบันทางการเงินที่เข้ามาเทรด BTC และ ETH derivative
Growth in the U.S. regulation efforts
จากการเติบโตของอุตสาหกรรม Cryptocurrency และ Defi ทำให้ปีนี้เราเริ่มเห็นการห้ามบริษัทคริปโคให้บริการ
โดยการประเมิณจากประกาศของ SEC และ CTFC ของอเมริกา เราพบว่าการพยายาม Sanction เพิ่มสูงกว่า 25 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน
อีกทั้งยังพบว่ามีการเพิ่มการเก็บภาษีและการแสดงการครอบครอง ใน Infrastructure bill
เราจะเห็นได้ว่า U.S. Regulator มีความพยายามอย่างมากในการเข้าควบคุมอุตสาหกรรมคริปโต การมาของ Gary Gensler ประธาน SEC จะเพิ่มความเข้มข้นของการตรวจสอบให้มากขึ้น แม้คนจากอุตสาหกรรมคริปโต จะมองว่าเป็นบุคคลที่น่าจะเข้าใจคริปโตมากที่สุดคนหนึ่งจากการประวัติการสอนเรื่องคริปโตในมหาวิทยาลัย แต่กับปรากฏท่าทีที่แข็งกร้าว และตัวของ Gary เองก็กล่าวว่าเขาต้องการความมั่นใจว่าคริปโตจะไม่มาบ่อนทำลายความมั่นคงของระบบได้
Admin Aof
From The Block Research