ภาพรวมของตลาด Bitcoin จาก On-chain report glassnode สัปดาห์ที่ 16, 2022
ราคาของ Bitcoin ได้ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าระดับ 40k อีกครั้ง โดยราคาเปิดในต้นสัปดาห์อยู่ที่ $41,446 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาทำ low ที่ $38,729

โซนราคาสำคัญของนักลงทุน
ในกราฟสองอันข้างล่างนี้จะเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่าง realized price distribution ในวันที่ 22 มกราคม 2022 (วันที่ราคาปรับตัวลดลงแตะ $33k) กับวันที่ 22 เมษายน 2022
ในตอนที่ราคาของ BTC ทำ local low ที่ $33k เราจะเห็นว่า price distribution ค่อนข้างที่จะกระจายอย่างเท่าๆกันในแต่ละช่วงราคาโดยจะมีถึง 5 ช่วงราคาหลักๆด้วยกัน ได้แก่ $35k, $42k, $47k, $57k, และ $63k

และเมื่อมาเรานำมาเปรียบเทียบกับสถานการ์ณในปัจจุบันเราจะเห็นว่า
- มีเหรียญจำนวนมากที่ถูก re-accumulated ในโซนราคา $38k – $45k
- โซนสีน้ำเงิน: แสดงให้เห็นถึงจำนวนของเหรียญที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วง sideway สองเดือนที่ผ่านมา ทาง glassnode จึงตีความว่านักลงทุนเหล่ามักจะเป็นสาย HODL ดังนั้นการปรับตัวลดลงของราคาจึงไม่ส่งผลต่อนักลงทุนกลุ่มนี้มากนัก
- โซนสีเขียว: แสดงให้เห็นถึงโซนที่เกิดการ redistributed หรือเปลี่ยนมือของเหรียญที่ถูกซื้อในโซนราคา $32k – $36k และยังมีการ realized profit กว่า 60k BTC ในช่วงราคา $3k – $4k อีกด้วย
- โซนสีแดง: แสดงให้เห็นถึงเหรียญที่ทางนักลงทุนซื้อหลังจากราคาปรับตัวลงตั้งแต่ ATH ที่ทางนักลงทุนคาดว่าเป็นการ buy the dip แต่เมื่อราคายังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการ realized loss ขึ้นนั่นเอง

เมื่อนักลงทุนถือเหรียญที่มีอายุเกิน 155 วันจะถูกเปลี่ยนสถานะเป็น LTH ซึ่ง ณ เวลาของวันที่เขียนการแบ่งระหว่าง LTH กับ STH จะอยู่ในช่วง ATH พอดี โดยผู้ที่ถือเหรียญก่อน ATH จะนับเป็น LTH และ STH สำหรับผู้ที่ถือหลัง ATH
- STH (สีแดง): ราคาต้นทุนเฉลี่ยของเหรียญที่ทาง STH ซื้อนั่นอยู่ในช่วงราคาของ $38k – $50k ซึ่งจำนวนของ top buyers ที่ซื้อในโซนราคาสูงเหลือค่อนข้างน้อยแล้ว ทาง glassnode ได้ตีความไว้ว่าเกิดจากการที่ทางนักลงทุนได้ขายขาดทุนไปแล้วนั่นเอง
- LTH (สีน้ำเงิน): ปัจจุบันกว่า 15.2% ของ supply ที่ทาง LTH ถือนั่นขาดทุนอยู่ ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้สนใจเรื่องของราคามากนัก

การเติบโตของ Unrealized loss
ถ้าเราสังเกตุในจำนวนของ supply ที่กำลังขาดทุนอยู่ทั้งในฝั่งของ LTH และ STH เราจะเห็นว่าการปรับตัวลดลงของราคาในครั้งนี้ส่งผลให้มี supply in loss เยอะกว่าการเทขายในเดือนพฤษภาคม 2021 เสียอีก
ปัจจุบันจำนวนของ supply ที่ขาดทุนคิดเป็นทั้งหมด 30.5% แบ่งเป็น 15% ในส่วนของ STH และ 15.5% ในส่วนของ LTH
โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ LTH supply in loss แสดงให้เห็นถึงจำนวนของ HODLer ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากถึงแม้ตัวนักลงทุนเองจะขาดทุนและราคาปรับตัวลงแต่กลับยังไม่ตัดสินใจที่จะขายขาดทุนแสดงให้เห็นถึงกลุ่มของนักลงทุนที่ค่อนข้างจะ price insensitive หรือการที่ราคาไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจในการขายนั่นเอง

ในกราฟ LTH supply dynamics ค่าในกราฟจะเป็นบวกก็ต่อเมื่อ LTH supply กำลังกลับมากำไรอีกครั้งซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดต่อจากช่วง accumulation และกลับกันเมื่อค่าในกราฟเป็นลบก็จะเกิดขึ้นเมื่อจำนวนของ LTH จำนวนมากนั่นขาดทุนสาเหตุมาจากการปรับตัวลดลงของราคาและ correction
โดยที่ปัจจุบันหลังจากเกิดการ correction ส่งผลให้ volume ของเหรียญที่ LTH ถือนั่นอยู่ในสถานะ unrealized loss เป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าหากนำมาคำนวนในรูปแบบของ standard deviation แล้ว volume ของ LTH supply ที่ขาดทุนนั่นคิดเป็น -5.1σ เลยทีเดียว

เมื่อเรามาสังเกตุในฝั่งของ STH เราจะเห็นว่าเมื่อค่า supply dynamics ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงตลาดกระทิง (A) และมักจะตามมาด้วยการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง (B) เนื่องจากการที่เหรียญที่ STH ซื้อมาตลอดในช่วงขาขึ้นนั่น พอเกิดการ correction จึงทำให้เหรียญเหล่านั่นอยู่ในสถานะ unrealized loss ทันที
โดยในปัจจุบันเมื่อนำค่าต่างๆมาคำนวนแล้ว net change ของ STH ที่ขาดทุนนั่นอยู่ที่ -3.2σ นั่นเอง

เราผ่านช่วง capitulation มาแล้วหรือยัง
Capitulation คือเมื่อตลาดเริ่มมีความไม่มั่นใจและเกิดแรงเทขายมหาศาล โดยที่ผ่านมา STH จำนวนมากที่ได้ซื้อ BTC หลังจาก ATH หรือช่วงที่ราคาสูงกว่า $50k ได้ capitualted และ redistributed เหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้แรงขายเริ่มมีน้อยลง
อย่างไรก็ตามนักลงทุนเล็งเห็นว่าโซนราคาที่ $35k – $42k นั่นเป็นช่วง accumulation ที่สำคัญเราจึงยังไม่เห็นการ break โซนนี้แบบชัดๆ
ซึ่งถ้าหากเราสังเกตุในกราฟ realized cap net position changed หรือ z-score นั่นเราจะเห็นว่าปัจจุบัน STH realized losses มีขนาดใหญ่พอๆกับในตลาดหมีช่วง 2018 ที่ -3.0σ
ทาง glassnode จึงตีความว่าในฝั่งของ STH นั่นได้เกิดการ capitulation เป็นที่เรียบแล้วและมันยังใหญ่กว่าช่วง July 2021 bottom ที่ราคาของ BTC หล่นไปอยู่ที่ $29k เสียอีก

ส่วนใน LTH การที่ realized cap ของ LTH นั่นลดลงในครั้งนี้นั่นทาง glassnode ได้กล่าวไว้ว่าเกิดจาการที่ การที่ LTH ที่ถือเหรียญที่มีต้นทุนหรือ cost basis สูงกว่า $14.6k นั่นกำลัง capitulating โดยการขายทำกำไรและ redistribute เหรียญให้กับ STH ใหม่ๆ
โดยที่หลังจากเกิด correction ในรอบนี้ LTH จำนวนมากได้ทำการขายทำกำไรให้กับผู้ที่เข้าซื้อในราคาช่วง $35k – $42k ส่งผลให้ค่า LTH cost basis นั่นปรับตัวลดลงเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ -4.5σ

สรุป
ในสัปดาห์นี้ทาง glassnode ได้กล่าวถึงสถานการ์ณของนักลงทุนหลังจากเกิดปรับตัวลงของราคาในช่วงที่ผ่านมา โดยนำตัวชี้วัดอย่าง price distribution มาแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาของเหรียญที่ last moved และแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการปรับตัวลงในครั้งนี้ต่อกำไรและขาดทุนของนักลงทุนอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก On-chain report glassnode สัปดาห์ที่ 16, 2022
สามารถย้อนกลับไปอ่านภาพรวมตลาดบิทคอยน์หรือบทความต่างๆย้อนหลังได้ ที่นี่