Foundation Passport: Hardware Wallet ระดับพรีเมียมที่สร้างมาเพื่อ Bitcoiner โดยเฉพาะ

Foundation Passport: Hardware Wallet ระดับพรีเมียมที่สร้างมาเพื่อ Bitcoiner โดยเฉพาะ

Foundation Passport เป็น Hardware Wallet ระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษา Bitcoin โดยเฉพาะ มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ พัฒนาโดย Foundation Devices หนึ่งในบริษัทด้านความปลอดภัย Bitcoin ชั้นนำจากเมือง Boston ประเทศสหรัฐอเมริกา

อุปกรณ์โดดเด่นด้วยระบบ Air-gapped ที่ตัดการเชื่อมต่อทุกรูปแบบและใช้การสื่อสารผ่าน QR Code เท่านั้น มาพร้อมชิปความปลอดภัย Secure Element(Microchip 608b)และระบบป้องกันการงัดแงะระดับสูง เฟิร์มแวร์เขียนด้วยภาษา Rust และเป็น Open Source 100% ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้

Foundation Passport ผลิตในสหรัฐอเมริกาโดยใช้ชิ้นส่วนคุณภาพสูงจากสหรัฐและญี่ปุ่น เน้นการผลิตในปริมาณจำกัดเพื่อควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ในประเทศไทยจัดจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ thaibitcast.com ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม

 

 


การเปรียบเทียบกับ Hardware Wallet ระดับพรีเมียม

การเปรียบเทียบระหว่าง Foundation Passport กับ Hardware Wallet ระดับพรีเมียมในตลาด โดยเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติและระดับราคาใกล้เคียงกัน

  • Foundation Passport: เน้น Bitcoin Only และความปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบ Air-gapped
  • BitBox02 Bitcoin Only: เน้น Bitcoin เช่นกัน แต่ใช้การเชื่อมต่อ USB
  • Coldcard Mk4: Bitcoin Only พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูง
  • OneKey Pro: รองรับหลายเหรียญ มีทั้ง USB-C และ Bluetooth
  • Keystone Pro: รองรับหลายเหรียญ ใช้ QR Code เช่นกัน

 

คุณสมบัติ

Foundation Passport

BitBox02 Bitcoin only

Coldcard Mk4

OneKey Pro

Keystone Pro

หน้าจอ

IPS 4" สี (800x480)

OLED 2.4" สี

LCD 2.4" สี

LCD 2.4" สี

LCD 4" สี

การเชื่อมต่อ

QR Code (Air-gapped) Only

(USB-C สำหรับชาร์จเท่านั้น)

USB-C

USB-C + SD Card

USB-C + NFC + Bluetooth

QR Code + USB-C

ชิปความปลอดภัย

Microchip 608b

ATECC608A

ATECC608A

TMC THD89

TMC THD89 x4

การใช้งาน

ปุ่มกด D-pad

Touch sensors

ปุ่มตัวเลข

หน้าจอสัมผัส

หน้าจอสัมผัส

รองรับเหรียญ

Bitcoin เท่านั้น

Bitcoin เท่านั้น

Bitcoin เท่านั้น

Multi-coin

Multi-coin

แบตเตอรี่

1,200 mAh

ไม่มี 

AAA

530 mAh

1000 mAH

ราคา (USD/THB)

8,950

~16,000

9,979

12,000

5,990

Open Source

100%

100%

100%

บางส่วน

บางส่วน

ป้องกันการงัดแงะ

ระดับสูง + เซ็นเซอร์

ระดับสูง

ระดับสูง + เซ็นเซอร์

ระดับสูง

ระดับสูง

 

จุดเด่นของแต่ละรุ่น:

  • Foundation Passport: หน้าจอใหญ่ ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย Open Source 100%
  • BitBox02 Bitcoin Only: ขนาดกะทัดรัด และเป็น Bitcoin Only
  • Coldcard Mk4: ปุ่มกดตัวเลข เน้นความปลอดภัยสูงสุด มี SD Card slot
  • OneKey Pro: ราคาประหยัด หน้าจอสัมผัส รองรับหลายเหรียญ มี Bluetooth
  • Keystone Pro: หน้าจอใหญ่ รองรับหลายเหรียญ ใช้ได้ทั้ง QR Code และ USB-C

*หมายเหตุ: ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า


จุดเด่นด้านการออกแบบและระบบความปลอดภัยของ Foundation Passport 

การออกแบบฮาร์ดแวร์

  • หน้าจอ IPS ความละเอียด 800x480 พิกเซล 
  • ปุ่มกดแบบ D-pad แบบ 5 ทิศทาง (บน-ล่าง-ซ้าย-ขวา-กด) ผลิตจากโลหะคุณภาพสูง
  • ระบบป้องกันการงัดแงะ (Anti-tamper) พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเปิดเครื่อง
  • แบตเตอรี่ Li-ion ความจุ 1,200 mAh 

ระบบ Air-gapped และความปลอดภัย

  • ระบบ Air-gapped ตัดการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ ใช้ QR Code ในการสื่อสาร
  • ชิปความปลอดภัย Secure Element Microchip 608b
  • เฟิร์มแวร์ Open Source 100% เขียนด้วยภาษา Rust
  • รองรับการอัพเดทเฟิร์มแวร์แบบ Air-gapped ผ่าน QR Code


ข้อดีและข้อเสียของ Foundation Passport

ข้อดี

1. ความปลอดภัยระดับสูง

  • ระบบ air-gapped ลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางออนไลน์
  • มี Secure Element chip
  • ระบบป้องกันการงัดแงะที่มีประสิทธิภาพ

2. การใช้งานสะดวก

  • หน้าจอใหญ่
  • ปุ่มกด D-pad คุ้นเคยและใช้งานง่าย
  • แบตเตอรี่ชาร์จได้

3. ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

  • Open source ทั้งหมด
  • ผลิตในสหรัฐอเมริกา
  • การพัฒนาและอัพเดทสม่ำเสมอ

ข้อเสีย

1. ราคาสูง

  • แพงกว่าคู่แข่งในตลาด 2-3 เท่า
  • ต้นทุนการซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องสูง

2. ข้อจำกัดด้านการใช้งาน

  • รองรับเฉพาะ Bitcoin
  • การทำธุรกรรมผ่าน QR code อาจช้า
  • ไม่มีการเชื่อมต่อ Bluetooth หรือ NFC

3. ความเป็นแบรนด์ใหม่

  • บริษัทก่อตั้งเพียง 4 ปี
  • ประวัติการใช้งานระยะยาวยังไม่มี
  • เครือข่ายการสนับสนุนอาจยังไม่กว้างขวางเท่าแบรนด์อื่น


กลุ่มเป้าหมาย

Foundation Passport เหมาะสำหรับ:

  • นักลงทุน Bitcoin ระยะยาวที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด
  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและระบบ air-gapped
  • ผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีหน้าจอใหญ่และใช้งานสะดวก
  • ผู้ที่สนใจเรื่อง open source และต้องการตรวจสอบโค้ดได้

ไม่เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ต้องการเก็บหลายสกุลเงินคริปโต
  • เทรดเดอร์ที่ต้องทำธุรกรรมบ่อยๆ
  • ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด


ข้อควรระวังและการดูแลรักษา

การเก็บรักษาและการใช้งาน

  • ต้องเก็บรักษา Seed Phrase (12 หรือ 24 คำ) ไว้ในที่ปลอดภัย และห้ามเก็บในรูปแบบดิจิทัล
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่สาธารณะเนื่องจากการสแกน QR code อาจถูกแอบถ่ายได้
  • ตั้งรหัส PIN ที่คาดเดายากและไม่ควรบอกกับผู้อื่น
  • ตรวจสอบอุปกรณ์ว่าไม่มีร่องรอยการงัดแงะก่อนใช้งาน
  • ระวังการตกกระแทก โดนน้ำ หรือความร้อนสูง
  • อุณหภูมิการใช้งานที่เหมาะสม 0-40°C
  • ความชื้นสัมพัทธ์ไม่เกิน 95%
  • ชาร์จแบตเตอรี่ทุก 3-6 เดือนหากไม่ได้ใช้งาน

 

การรับประกันและบริการหลังการขาย

  • รับประกัน 1 ปีเต็มโดย Bitcast
  • ครอบคลุมความเสียหายจากการผลิต ไม่รวมความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี
  • บริการเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน 7 วันหากพบปัญหาจากการผลิต
  • ศูนย์บริการในกรุงเทพฯ พร้อมให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์และอีเมล

 

ซอฟต์แวร์ที่รองรับ

  • Sparrow Wallet
  • Specter Desktop
  • BlueWallet
  • Nunchuk Wallet

 

 

สรุป

Foundation Passport เป็น Hardware Wallet ระดับพรีเมียมที่เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูงสุด แม้จะมีราคาสูงและรองรับเฉพาะ Bitcoin แต่ด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน ระบบ Air-gapped และความโปร่งใสในการพัฒนา ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บรักษา Bitcoin ระยะยาวอย่างปลอดภัย

ในประเทศไทย Thai Bitcast ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นำเข้าและจัดจำหน่าย Foundation Passport พร้อมให้บริการหลังการขาย รับประกันสินค้า 1 ปี และได้รับของภายใน 3 วันทำการ หากสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ thaibitcast.com

กลับไปยังบล็อก

แสดงความคิดเห็น

โปรดทราบว่าความคิดเห็นจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่จะได้รับการเผยแพร่