เจาะลึก! 10 เรื่องต้องรู้ก่อนใช้ Passphrase ฟีเจอร์กระเป๋าลับบน Trezor & OneKey
Share
มีเพื่อน ๆ หลายท่านสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง Passphrase กันเข้ามาค่อนข้างมาก ซึ่ง Passphrase นั้นไม่เหมือน Seed phrase หรือ Recovery seed ที่เราจด 12-24 คำ และไม่เหมือน Password ที่เราคุ้นเคย
Passphrase คือฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงใน Trezor Suite ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีวิธีกู้คืน Passphrase ที่สูญหาย บทความนี้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเพื่อให้เข้าใจและใช้งานฟีเจอร์ Passphrass นี้ได้อย่างมั่นใจ
10 คำถามสำคัญเกี่ยวกับ Passphrase
คำถามที่ 1: Passphrase คืออะไร และทำงานอย่างไร?
Passphrase เปรียบเสมือนกุญแจพิเศษที่ใช้เข้าถึง "ตู้นิรภัยลับ" ในกระเป๋าเงินของคุณ ที่ทำให้เข้าถึงกระเป๋าเงินแยกต่างหากจาก Standard wallet หรือกระเป๋าเงินปกติที่เราใช้กัน ทำให้เรามีกระเป๋าย่อย ๆ ภายในกระเป๋าหลัก(ที่ไม่ใช้ Passphrase) ได้อย่างไม่จำกัด
โดยแบ่งเป็น:
- Standard Wallet: ใช้เพียง Recovery seed
 - Hidden Wallet: ใช้ Recovery seed + Passphrase
 
วิธีการทำงาน:
- Passphrase จะทำหน้าที่เหมือนคำพิเศษต่อท้าย Recovery seed
 - การใช้ Recovery seed อย่างเดียวจะเข้าถึงได้แค่ Standard Wallet
 - การใช้ Passphrase ที่ต่างกันจะสร้าง Hidden Wallet ที่ไม่ซ้ำกัน
 

คำถามที่ 2: Passphrase ใช้กับซอฟต์แวร์อื่นได้หรือไม่?
Passphrase ไม่ได้เป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Trezor หากแต่สามารถใช้กับแอพอื่นๆ ได้ เช่น MetaMask อย่างไรก็ตามมีข้อควรรู้:
- MetaMask รองรับ Passphrase เมื่อใช้ผ่าน Hardware Wallet เท่านั้น
 - ตัว MetaMask เองไม่มีฟีเจอร์ Passphrase
 
คำถามที่ 3: หาก Recovery seed ถูกขโมยไป การใช้ Passphrase ช่วยปกป้องสินทรัพย์ได้ไหม?
ได้! แม้ Recovery seed จะรั่วไหล Passphrase ยังช่วยปกป้องสินทรัพย์ของคุณได้ เพราะ:
- Passphrase ไม่ได้ถูกเก็บในอุปกรณ์
 - ไม่มีใครเห็นหรือเข้าถึง Hidden Wallet ได้
 - ต้องมีทั้ง Recovery seed และ Passphrase ถึงจะเข้าถึงสินทรัพย์ได้
 
คำถามที่ 4: ทำ Trezor หาย จะทำอย่างไร?
ไม่ต้องกังวลครับ เพราะ Bitcast มีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม คุณสามารถ:
- ซื้อ Trezor รุ่นใหม่จากเราได้ทันที
 - มี Trezor Safe3 และ Safe5 พร้อมส่ง
 - รับประกันสินค้าแท้ 100%
 - นำเข้า Recovery seed ของคุณเข้าสู่อุปกรณ์อันใหม่
 - เปิดใช้งาน Passphrase
 - ป้อน Passphrase เดิมที่เคยใช้ เพื่อเข้าถึง Hidden Wallet
 
ข้อควรระวัง:
- ป้อน Passphrase ให้ถูกต้อง 100% (เช่น "Hello" ≠ "hello")
 - การป้อนผิดจะสร้าง Hidden Wallet ใหม่โดยไม่มีการแจ้งเตือน
 - หากลืม Passphrase จะไม่สามารถกู้คืนได้
 
คำถามที่ 5: Trezor สร้าง Passphrase ให้ผู้ใช้หรือไม่?
ไม่ครับ คุณต้องสร้าง Passphrase เอง โดยมีข้อกำหนดดังนี้:
ข้อกำหนดในการสร้าง:
- ความยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร
 - ใช้ได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ
 - คำนึงถึงตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก
 - เว้นวรรคนับเป็นตัวอักษร (เช่น "Bit coin" = 8 ตัวอักษร)
 
คำถามที่ 6: ควรเก็บรักษา Passphrase อย่างไร?
คำแนะนำในการเก็บ:
- จดจำเป็นวิธีที่ดีที่สุด
 - หากต้องจดบันทึก ให้แยกเก็บจาก Recovery seed
 - ห้ามเก็บในรูปแบบดิจิทัลหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
 - เก็บในที่ปลอดภัยที่ญาติสนิทสามารถค้นพบได้ในกรณีฉุกเฉิน
 - พิจารณาใช้ตู้นิรภัยธนาคารหรือฝากไว้กับทนายความ
 
คำถามที่ 7: Passphrase ถูกเก็บไว้ที่ไหนใน Trezor?
Passphrase ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในที่ใดเลย:
- ไม่มีการบันทึกใน Trezor
 - ไม่มีการเก็บในซอฟต์แวร์
 - ไม่สามารถดึงข้อมูลจากอุปกรณ์ได้แม้ถูกขโมย
 
คำถามที่ 8: หากลืม Passphrase จะเกิดอะไรขึ้น?
เมื่อลืม Passphrase จะมีผลดังนี้:
- สูญเสียการเข้าถึง Hidden Wallet อย่างถาวร
 - ไม่สามารถกู้คืนสินทรัพย์ได้
 - ไม่มีหน่วยงานใดช่วยกู้คืนได้ แม้แต่ Trezor เองก็กู้คืนไม่ได้
 
เหตุผลที่กู้คืนไม่ได้:
- Passphrase ไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่ใด
 - เป็นระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง
 - ไม่มีระบบ Backup สำหรับ Passphrase
 
คำถามที่ 9: การแชร์ Passphrase กับผู้อื่นหรือไม่?
หลักการพื้นฐาน:
- ปฏิบัติเหมือน Recovery seed
 - ห้ามเก็บในรูปแบบดิจิทัลทุกชนิด
 - ห้ามถ่ายรูปหรือแชร์ผ่านออนไลน์
 - ห้ามบอกใครยกเว้นกรณีทำพินัยกรรม
 - เก็บในรูปแบบกระดาษหรือโลหะเท่านั้น
 - แยกเก็บคนละที่กับ Recovery seed
 
Passphrase เปรียบเสมือนกุญแจสำรองอีกดอกที่ต้องดูแลให้ดีเท่าๆ กับ Recovery seed หากรั่วไหลอาจทำให้สูญเสียสินทรัพย์ทั้งหมดได้
- ไม่ควรแชร์กับใครยกเว้นกรณีจำเป็น
 
กรณีที่ควรแชร์:
- การวางแผนมรดกดิจิทัล
 - การเข้าถึงฉุกเฉินโดยครอบครัว
 - แชร์กับบุคคลที่ไว้ใจได้ 100% เท่านั้น
 
คำถามที่ 10: สามารถใช้ Passphrase ง่ายๆ ได้หรือไม่?
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
- Passphrase ง่ายๆ เช่น "password" หรือ "12345"
 - คำที่เดาได้ง่าย
 - ข้อมูลส่วนตัวที่รู้กันทั่วไป วันเดือนปีเกิด, เบอร์โทรศัพท์, เลขบัตรประชาชน
 
คำแนะนำในการตั้ง:
- ผสมตัวอักษรพิมพ์ใหญ่-เล็ก
 - ใช้อักขระพิเศษ
 - สร้างให้จำง่ายแต่เดายาก
 - ตรวจสอบความถูกต้องของตัวพิมพ์เสมอ เช่น คำว่า "Hello World" จึงไม่เหมือนกับ "hello world"
 
คำแนะนำเพิ่มเติมจาก Bitcast
- เลือกซื้อ Hardware Wallet จากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น เรามีสินค้าคุณภาพให้เลือกหลากหลาย:
 - Trezor Safe 3 และ Safe 5
 - Foundation Passport (อยู่ระหว่างดำเนินการนำเข้า)
 - Blockstream (อยู่ระหว่างดำเนินการนำเข้า)
 - Coinkite Tapsigner (อยู่ระหว่างดำเนินการนำเข้า)
 - การตรวจสอบความปลอดภัย:
 - ตรวจซีลอุปกรณ์ก่อนใช้งาน
 - ตรวจสอบว่าเป็นเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด
 - ใช้แอพพลิเคชันทางการเท่านั้น
 - ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษา:
 - สอนการใช้งานอย่างละเอียด
 - แนะนำการตั้งค่าความปลอดภัย
 - ให้คำปรึกษาตลอดการใช้งาน
 
บทสรุป
Passphrase เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่ทรงพลัง แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและรับผิดชอบ การเข้าใจวิธีใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          