คู่มือการใช้งาน Coinkite Tapsigner

คู่มือฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นใช้งาน Coinkite Tapsigner ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

Coinkite Tapsigner เป็น Hardware Wallet รูปแบบบัตร NFC ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการเก็บรักษา Bitcoin โดยมีคุณสมบัติหลักดังนี้:

  • รูปแบบบัตร: ทำจาก Polycarbonate คล้ายบัตรเครดิต
  • เทคโนโลยี NFC: เชื่อมต่อผ่านระบบ Near Field Communication
  • Air-gapped: ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรง
  • รองรับ Multisig: ใช้งานร่วมกับระบบ Multi-signature ได้
  • พกพาสะดวก: ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา

รายละเอียด

รายละเอียดบนบัตร

บนด้านหลังของบัตร Tapsigner จะมีข้อมูลสำคัญ 3 รายการที่ต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัย

  1. Card Identifier ใช้ระบุตัวตนบัตร Tapsigner
  2. Starting PIN ใช้จับคู่กับแอปครั้งแรก
  3. Backup Password ใช้กู้คืน Key/Wallet (ต้องจดเก็บไว้)

คำเตือน: ข้อมูลทั้ง 3 รายการนี้ต้องเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ห่างจากบัตร

ขั้นตอนที่ 1

ติดตั้งแอปพลิเคชัน Nunchuk

  1. เปิด App Store (iOS) หรือ Google Play (Android)
  2. ค้นหา "Nunchuk Wallet"
  3. กดดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน

ขั้นตอนที่ 2

เข้าสู่ระบบแอป Nunchuk

  1. เปิดแอปพลิเคชัน Nunchuk
  2. เลือกวิธีเข้าสู่ระบบ:
    - ล็อกอินด้วยอีเมล หรือ
    - ใช้งานโดยไม่ล็อกอิน (Guest Mode)

ขั้นตอนที่ 3

เชื่อมต่อ Tapsigner กับแอป

  1. บนหน้า Home ของแอป เลือก "Add Key"
  2. เลือก "Add Tapsigner via NFC"
  3. แตะบัตร Tapsigner กับส่วนหลังของโทรศัพท์ (บริเวณเซ็นเซอร์ NFC)
  4. ทำตามขั้นตอนการติดตั้ง NFC Key:
    - Set up Chain Code: เลือก "Automatic"
    - กรอก Starting PIN: ใส่รหัส PIN จากด้านหลังบัตร
    - Set up New PIN: ตั้งรหัส PIN ใหม่สำหรับการใช้งาน
    - Confirm New PIN: ยืนยันรหัส PIN ที่ตั้งใหม่

ขั้นตอนที่ 4

สำรองข้อมูล (Backup)

  1. ระบบจะแจ้งให้สำรอง Backup File
  2. บันทึกไฟล์ Backup ไว้ในที่ปลอดภัย (ขั้นตอนนี้สำคัญมาก)
  3. เก็บไฟล์ไว้หลายที่ (แนะนำ 2-3 สถานที่)

การสร้างกระเป๋า Bitcoin

สร้าง Wallet ใหม่

  1. บนหน้า Home เลือก "Create New Wallet"
  2. เลือกประเภท Wallet: "Custom Wallet"

การสร้างกระเป๋า Bitcoin

กำหนดค่า Wallet (Single Signature)

  1. Wallet Name ตั้งชื่อที่จำง่าย
  2. Address Type Native SegWit (bech32)
  3. Required Keys1 (สำหรับ Single Signature)
  4. Selected Key เลือก Tapsigner Key ที่เพิ่มไว้

การสร้างกระเป๋า Bitcoin

ยืนยันและสำรองข้อมูล

  1. ตรวจสอบข้อมูล Wallet ให้ถูกต้อง
  2. ระบบจะขอให้สำรอง Configuration File
  3. บันทึกไฟล์สำรอง Wallet (ขั้นตอนสำคัญ)
  4. เก็บไฟล์ไว้แยกจาก Backup File ของ Key

หมายเหตุ: สำหรับ Multi-signature Wallet จะต้องมี Key มากกว่า 1 ตัว และกำหนด Required Keys ตามต้องการ

การรับและส่ง Bitcoin

การส่ง Bitcoin

  1. บนหน้า Home เลือก Wallet ที่ต้องการส่งเงิน
  2. กดปุ่ม "Send"
  3. กรอกข้อมูลธุรกรรม
    จำนวน Bitcoin ที่ต้องการส่ง
    Address ปลายทาง (พิมพ์หรือสแกน QR Code)

การรับและส่ง Bitcoin

การส่ง Bitcoin

  1. ตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรม:
    จำนวนที่ส่ง
    ค่าธรรมเนียม (Transaction Fee)
    Address ปลายทาง
  2. กด "Continue" เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย
  3. กด "Sign" เพื่อยืนยันธุรกรรม
  4. แตะบัตร Tapsigner เพื่อลงลายเซ็นดิจิทัล
  5. รอยืนยันธุรกรรมบน Blockchain
  6. บนหน้า Home เลือก Wallet ที่ต้องการรับเงิน
  7. กดปุ่ม "Receive"
  8. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
    คัดลอก Bitcoin Address หรือ
    แสดง QR Code ให้ผู้ส่งสแกน

ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย

การสำรองข้อมูล

มีไฟล์สำคัญ 2 ไฟล์ที่ต้องเก็บรักษา:

  1. Backup File ของ Key: ใช้กู้คืน Key
  2. Configuration File ของ Wallet: ใช้กู้คืน Wallet

วิธีเก็บรักษาที่แนะนำ:

  • เก็บไฟล์ในอุปกรณ์หลายตัว (คอมพิวเตอร์, USB, Cloud Storage แยกกัน)
  • อย่าเก็บไฟล์ไว้กับบัตร Tapsigner
  • พิจารณาพิมพ์ข้อมูล Backup Password เก็บไว้กระดาษ

การป้องกันความเสี่ยง

  1. บัตรสูญหายมีไฟล์ Backup ครบถ้วน
  2. NFC ถูกสแกนโดยไม่รู้ตัวใส่ซองกัน RFID หรือกระเป๋าป้องกัน
  3. ไม่มี Seed Phraseใช้ร่วมกับ Multisig เพื่อกระจายความเสี่ยง
  4. Single Point of Failureใช้งานเป็น Key ตัวหนึ่งใน Multisig Wallet

การกู้คืนข้อมูล

เมื่อต้องการกู้คืน Wallet:

  1. ใช้ Backup File กู้คืน Key
  2. ใช้ Backup Password ที่จดไว้
  3. นำเข้า Configuration File เพื่อกู้คืน Wallet
  4. ใช้งานได้ตามปกติ

คำเตือน: หากไม่มีไฟล์ Backup และ Backup Password = ไม่สามารถกู้คืนได้

ข้อดีและข้อจำกัด

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • พกพาสะดวก: ขนาดเท่าบัตรเครดิต
  • ความปลอดภัยสูง: ไม่มีจอ ไม่มีปุ่ม ไม่เชื่อมต่อเน็ต
  • ราคาประหยัด: เข้าถึงได้ง่าย
  • รองรับ Multisig: ใช้เป็น Key ใน Multisig Wallet ได้

ข้อจำกัด

  • ไม่มี Seed Phrase แบบดั้งเดิม: กู้คืนผ่านไฟล์ Backup เท่านั้น
  • ต้องมีไฟล์ Backup: หากไม่มี = กู้คืนไม่ได้
  • ความเสี่ยงจาก NFC: อาจถูกสแกนโดยไม่รู้ตัว (ควรใช้ซองกัน RFID)
  • ต้องระมัดระวังในการเก็บรักษา: บัตรบาง เสียหายง่ายหากไม่ดูแล

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่เริ่มต้นใช้ Hardware Wallet
  • ผู้ใช้งานหลักบนมือถือ
  • ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพา
  • ผู้ที่ใช้งาน Multisig Wallet
  • ผู้ที่ต้องการ Key เพิ่มเติมแบบพกพาง่าย

สรุป

Coinkite Tapsigner เป็น Hardware Wallet ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการ Key เพิ่มเติมใน Multisig Wallet การใช้งานไม่ซับซ้อน พกพาสะดวก และเชื่อมต่อกับแอป Nunchuk ได้อย่างราบรื่น

ข้อควรจำ:

  • สำรองไฟล์ให้ครบถ้วนทันทีหลังติดตั้ง
  • เก็บ Backup Password ไว้แยกจากบัตร
  • ใช้ซองกัน RFID เพื่อความปลอดภัย
  • พิจารณาใช้ร่วมกับ Multisig เพื่อลดความเสี่ยง