Coin vs Token ต่างกันอย่างไร

10 มกราคม 2024

เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเหรียญมีมที่โด่งดังอย่าง Dogecoin จึงไม่ตั้งชื่อว่า Dogetoken

หลายคนอาจจะไม่ทราบความแตกต่าง แต่มันไม่ใช่ความบังเอิญบทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างของ Coin และ Token ให้เข้าใจโดยง่าย

Coin คืออะไร

Coin คือคริปโทเคอร์เรนซีที่มี Blockchain ของตัวเอง จะไม่สามารถถูกใช้บนเชนอื่นได้ใน native form

โดยสามารถนำไปใช้เป็นแหล่งเก็บรักษามูลค่า (Store of value), ตัวกลางการแลกเปลี่ยน (Medium of exchange) และหน่วยวัดมูลค่า (Unit of account)

Coin จะถูกสร้างผ่านการขุด (Mining) หรือการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และตรวจสอบธุรกรรม คนที่สามารถหาคำตอบได้ก่อน จะได้เหรียญสร้างใหม่ (Block reward) กระบวนการนี้จะทำให้เชนมีความปลอดภัยและไร้ศูนย์กลาง

ลักษณะและประโยชน์ของ Coin

ความไร้ศูนย์กลาง (Decentralization): Coin ไม่ถูกควบคุมผ่านตัวกลางใดๆ แต่จะทำงานตามกฎและฉันทามติของโปรโตคอล ทำให้ผู้ใช้สามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของตัวเองได้
ความปลอดภัย (Security): Coin จะถูกปกป้องด้วยศาสตร์การเข้ารหัส (Cryptography) เพื่อป้องกันการแฮ็ก การเซ็นเซอร์ และสแกม ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าเหรียญปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้ตัวกลางในการยืนยัน
ความขาดแคลน (Scarcity): Coin ส่วนใหญ่จะมีอุปทานจำกัดที่ถูกกำหนดโดยอัลกอริทึม ทำให้มูลค่าของเหรียญเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม บางเหรียญไม่ได้มีอุปทานจำกัด อย่างเช่น Dogecoin

ทั้งนี้ ลักษณะดังกล่าวไม่เป็นจริงสำหรับทุก Coin เพราะขึ้นอยู่กับโปรโตคอลและระบบฉันทามติของเชน

Coin แต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ทั้งมูลค่าและการใช้งาน ต่อไปนี้คือตัวอย่างชนิดของ Coin:

Native coin: เหรียญที่อยู่บนเชนของตัวเองและเป็นเหรียญหลักบนนั้น เช่น Bitcoin, Ethereum, Litecoin
Forked coin: เหรียญที่ถูกแยกออกมาจากเชนหลัก เช่น Bitcoin cash, Bitcoin SV, Ethereum classic
Wrapped coin: เหรียญที่เป็นตัวแทนของเหรียญบนเชนอื่น มีไว้เพื่อการทำธุรกรรมข้ามเชน (Cross-chain) เช่น Wrapped Bitcoin, Wrapped Ether
Stablecoin: เหรียญที่ถูกตรึงมูลค่ากับสินทรัพย์อื่น อย่างเงินเฟียตหรือทองคำ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา เช่น Tether (USDT), USD coin (USDC)

Token คืออะไร

Token คือเหรียญที่อยู่บนบล็อคเชนที่มีอยู่แล้ว และขึ้นอยู่กับการทำงานของเชนนั้น โทเคนสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น Utility, การโหวต, การเป็นหุ้นส่วนหรือแสดงความเป็นเจ้าของ และอื่นๆ

โทเคนส่วนใหญ่จะเกิดจากการ Pre-mined คือการที่นักพัฒนาใช้ smart contract ในการสร้างโทเคนและแจกจ่ายให้ผู้อื่น ต่อไปนี้คือลักษณะและประโยชน์ของโทเคน:

Utility: โทเคนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้งาน dApps (แพลตฟอร์มไร้ศูนย์กลาง) ที่ถูกสร้างขึ้นมา ผู้ใช้สามารถใช้โทเคนในการจ่ายค่าธรรมเนียม ทำธุรกรรม หรือการรับผลประโยชน์
Governance: โทเคนให้สิทธิในการโหวตแก่ผู้ถือเหรียญ ผู้ถือสามารถโหวตข้อเสนอ (Proposal) และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
Interoperability: โทเคนสามารถใช้ในการทำธุรกรรมข้ามเชน ต่างจาก Coin คือโทเคนจะสามารถถูกใช้งานได้บนหลายเชน

โทเคนมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นกับการการทำงาน มูลค่า และประโยชน์ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของโทเคน:

Utility tokens: ใช้ในการเข้าถึงบริการหรือฟังก์ชันของบล็อคเชนและ dApp เช่น Uniswap (UNI), Chainlink (LINK)
Governance tokens: ใช้ในการโหวต เช่น Maker (MKR), Compoud (COMP), Aave (AAVE)
Security tokens: ใช้สำหรับแสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์หรือรายได้ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแล เช่น Polymath (POLY)
Non-fungible tokens (NFT): สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และไม่สามารถแบ่งได้ เช่น งานศิลปะ หรือของสะสม ไม่สามารถสลับกันได้และมีความแตกต่างในมูลค่า เช่น CryptoPunks, Bored Apes