หลาย ๆ คนคงเคยเกิดคำถามในใจว่า “ซื้อบิทคอยน์ตอนไหนดี?” ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงที่เรากลัวว่าจะเข้าซื้อไม่ทันทำให้เราทำกำไรไม่ทันนั่นเอง และยังคงต้องมาคอยลุ้นว่าราคาจะถึงที่เราตั้งใจไว้หรือไม่ นั่นอาจจะทำให้เราเพิ่มความเครียดในการลงทุนขึ้นมาได้
ในบทความนี้จะมาแนะนำการลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า การลงทุนแบบ “ถัวเฉลี่ยต้นทุน” ซึ่งจะช่วยให้เราบริหารการลงทุนได้อย่างมีวินัยและลดความเครียดจากการลงทุนในทุกสภาวะตลาดการลงทุนคริปโตที่มีความผันผวนสูง
DCA คืออะไร?
DCA คือ การลงทุนในระยะยาว โดยลงทุนด้วยเงินทุนที่เท่า ๆ กันอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยไม่คำนึงถึงราคาของสินทรัพย์ ณ เวลาที่เข้าซื้อ วิธีนี้ช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสะสมบิทคอยน์ไม่มีเวลาวิเคราะห์ทิศทางของตลาด หัวใจสำคัญของการลงทุนแบบ DCA คือการที่นักลงทุนทำตามแผนการลงทุนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ตัวอย่างการ DCA บิทคอยน์ เช่น
นักลงทุนวางแผนที่จะซื้อบิทคอย์ทุกเดือนในจำนวน 5,000 บาททุกวันที่ 1 ของทุกเดือน โดยไม่สนใจว่า ณ เวลาที่ซื้อราคาของบิทคอยน์จะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งนักลงทุนสามารถวางแผนการเข้าซื้อบิทคอยน์ได้ตามที่ตนเองสะดวก ไม่ว่าเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายไตรมาส แต่ต้องซื้อตามที่ตนเองได้วางแผนไว้อย่างเคร่งครัด
จากตารางจะเห็นได้ว่า หากลงทุนแบบ DCA ให้ผลตอบแทนประมาณ 19.83% ในระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2566 จนถึงสิงหาคม ปี 2567 เมื่อครบ 1 ปี ลงทุuไป 60,000 บาท ในขณะที่มูลค่าเหรียญที่ถือรวมกันมีสูงถึง 71,898.81 บาท ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนที่ดีพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่กระจายไปตลอดระยะเวลาการลงทุu
ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนแบบ DCA ในบิทคอยน์
ข้อดี:
1. ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
การลงทุนแบบ DCA ช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาบิทคอยน์ เนื่องจากคุณซื้อในปริมาณที่เท่ากันทุกช่วงเวลา ทำให้ได้ราคาเฉลี่ยที่ดีในระยะยาว เมื่อราคาต่ำ คุณจะได้บิทคอยน์มากขึ้น และเมื่อราคาสูง คุณจะได้น้อยลง ช่วยให้ต้นทุนเฉลี่ยของคุณอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล
2. สร้างวินัยในการลงทุน
DCA ช่วยสร้างนิสัยการลงทุนที่ดี เนื่องจากคุณต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอตามแผนที่วางไว้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร วิธีนี้ช่วยให้คุณมีวินัยในการจัดการเงินและการลงทุนในระยะยาว
3. ลดความเครียดจากการจับจังหวะตลาด
DCA ช่วยลดความกดดันในการพยายามเดาทิศทางตลาดหรือจับจังหวะซื้อที่ "ดีที่สุด" เนื่องจากคุณลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยไม่คำนึงถึงราคาปัจจุบัน ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับการติดตามราคาตลอดเวลาและลดการตัดสินใจด้วยอารมณ์
4. เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ประจำ
DCA เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ เช่น เงินเดือน เพราะคุณสามารถวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับรอบการรับเงินของคุณได้ ทำให้การลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย
1. อาจพลาดโอกาสทำกำไรระยะสั้น
เนื่องจาก DCA เน้นการลงทุนระยะยาว คุณอาจพลาดโอกาสในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วในระยะสั้น หากตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างรวดเร็ว การลงทุนแบบ DCA อาจทำให้คุณได้ผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุนครั้งเดียวในจำนวนมาก
2. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอาจสูงขึ้น
การลงทุนบ่อยครั้งตามแผน DCA อาจทำให้คุณต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะหากแพลตฟอร์มที่คุณใช้คิดค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม ซึ่งอาจกระทบต่อผลตอบแทนโดยรวมของคุณ
3. ผลตอบแทนอาจน้อยกว่าการลงทุนครั้งเดียวในจังหวะที่เหมาะสม
หากคุณสามารถจับจังหวะตลาดได้อย่างแม่นยำ (ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก) การลงทุนครั้งเดียวในราคาต่ำสุดอาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า DCA ในบางกรณี DCA อาจทำให้คุณได้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ "ดีพอ" แต่ไม่ใช่ "ดีที่สุด" เมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น
ทั้งนี้ การตัดสินใจว่าจะใช้วิธี DCA หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคล DCA อาจเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงและสร้างพอร์ตการลงทุนในบิทคอยน์ในระยะยาว
วิธีเริ่มต้น DCA บิทคอยน์
1. เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย
เลือกแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงดี ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น การใช้ Cold Storage และ 2FA พิจารณาค่าธรรมเนียมและความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะฟีเจอร์ DCA อัตโนมัติ ตัวเลือกในไทยเช่น Bitkub, SCB X หรือใช้ API อื่น ๆ เช่น Satca ที่สามารถใช้กับ Bitkub หรือ Binance ได้
2. กำหนดงบประมาณและความถี่ในการลงทุน
วางแผนการลงทุนที่เหมาะกับรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่คุณสบายใจ เช่น 1,000 บาททุกเดือน เลือกความถี่ที่เหมาะสม อาจเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ในภายหลัง
3. ตั้งค่าการลงทุนอัตโนมัติบนแพลตฟอร์ม
เข้าสู่ระบบในแพลตฟอร์มที่เลือก ค้นหาฟีเจอร์ Auto-invest หรือ DCA ตั้งค่าจำนวนเงินและความถี่ในการลงทุน เลือกบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์เป้าหมาย ยืนยันการตั้งค่าและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเงินเพียงพอในบัญชีสำหรับการลงทุนอัตโนมัติ
4. ติดตามและปรับแผนการลงทุนเป็นระยะ
ตรวจสอบผลการลงทุนเป็นประจำ เช่น ทุกเดือนหรือทุกไตรมาส ปรับแผนหากสถานการณ์ทางการเงินของคุณเปลี่ยนแปลง ทบทวนว่าการลงทุนยังสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวหรือไม่ ติดตามข่าวสารตลาดคริปโตอย่างสม่ำเสมอ และพิจารณากระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นตามความเหมาะสม
เครื่องมือและแอปพลิเคชันยอดนิยมสำหรับ DCA บิทคอยน์
คุณสมบัติ |
SATCA |
Bamboo |
DCA BTC |
ประเภท |
เครื่องมือ DCA อัตโนมัติ |
แอพลงทุน DCA |
เครื่องมือวิเคราะห์ DCA |
สินทรัพย์ที่รองรับ |
ขึ้นกับ Exchange ที่เชื่อมต่อ |
คริปโต, ทองคำ, ดัชนีหุ้น |
เฉพาะบิทคอยน์ |
การซื้อขายอัตโนมัติ |
มี |
มี |
ไม่มี |
การวิเคราะห์ประสิทธิภาพ |
ขึ้นกับ Exchange |
มี |
มี |
การติดตามพอร์ต |
มี |
มี |
ไม่มี |
การถอนเงิน |
ขึ้นกับ Exchange |
สามารถถอนได้ |
ไม่เกี่ยวข้อง (ไม่มีการเก็บสินทรัพย์) |
การรับรองจาก ก.ล.ต. |
ขึ้นกับ Exchange ที่ใช้ |
ไม่ |
ไม่เกี่ยวข้อง (ไม่มีการเก็บสินทรัพย์) |
จำนวนเงินขั้นต่ำ |
ขึ้นกับ Exchange |
ขั้นต่ำ $50 |
ไม่เกี่ยวข้อง (ไม่มีการเก็บสินทรัพย์) |
ความถี่ในการลงทุน |
ปรับแต่งได้ |
รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน |
ปรับแต่งได้ (สำหรับการจำลอง) |
ความปลอดภัย |
ขึ้นกับ Exchange |
มาตรฐานความปลอดภัยสูง |
ไม่เกี่ยวข้อง (ไม่มีการเก็บสินทรัพย์) |
ฟีเจอร์พิเศษ |
เชื่อมต่อกับหลาย Exchange |
Round-ups, พอร์ตสำเร็จรูป |
การจำลองสถานการณ์ DCA |
ค่าธรรมเนียม |
ทดลองใช้ฟรี |
มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม |
ฟรี |
ข้อดี |
ยืดหยุ่นสูง |
ใช้งานง่าย, หลากหลายสินทรัพย์ |
ฟรี, วิเคราะห์เชิงลึก |
เหมาะสำหรับ |
ผู้ที่ต้องการ DCA อัตโนมัติ |
ผู้เริ่มต้นที่ต้องการความหลากหลายในการ DCA |
ผู้ที่ต้องการวิเคราะห์ DCA เฉพาะบิทคอยน์ |
บทสรุป: เครื่องมือ DCA สำหรับบิทคอยน์
การเลือกเครื่องมือ DCA ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล ทั้งสามเครื่องมือที่เราได้พิจารณามีจุดแข็งที่แตกต่างกัน:
1. DCA BTC
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิเคราะห์และจำลองกลยุทธ์ DCA ก่อนลงทุนจริง เป็นเครื่องมือฟรีที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ DCA เฉพาะสำหรับบิทคอยน์
2. Bamboo
เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการแอพใช้งานง่ายและมีความหลากหลายของสินทรัพย์ นอกเหนือจากบิทคอยน์ อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ให้บริการและค่าธรรมเนียม
3. SATCA
มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถใช้งานกับ exchange หลายแห่ง รวมถึง exchange ในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุนไทย เนื่องจากสามารถใช้งานกับแพลตฟอร์มที่คุ้นเคยและได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศ
สำหรับนักลงทุนในประเทศไทย การใช้ SATCA อาจมีความสะดวกมากกว่า เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับ exchange ในไทยและต่างประเทศได้ ได้แก่ Bitkub และ Binance Global ซึ่งอาจช่วยลดปัญหาเรื่องการฝากถอนเงินและการปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละเครื่องมืออย่างรอบคอบ และเลือกใช้ให้เหมาะกับรูปแบบการลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง
DCA เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการลงทุนบิทคอยน์ระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างวินัยในการลงทุน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาให้ดีและเริ่มต้นอย่างระมัดระวัง โดยลงทุนเฉพาะเงินที่สามารถสูญเสียได้ และปรับแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์อยู่เสมอ
การลงทุนในบิทคอยน์ด้วยวิธี DCA อาจไม่ใช่วิธีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในทุกสถานการณ์ แต่เป็นวิธีที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าสู่ตลาดคริปโตได้อย่างมีระบบและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนในบิทคอยน์ในระยะยาวอย่างมีวินัย