เพื่อน ๆ หลายคนเข้ามาปรึกษาเรื่องการ Stake ETH ผ่านแอพ OneKey Hardware Wallet และ Trezor Suite Hardware Wallet กันเข้ามาจำนวนมาก บทความนี้จึงรวบข้อมูลเกี่ยวกับการ Stake ETH ผ่านแอพ OneKey และ Trezor Suite มาฝากกันครับ อย่าลืมอ่านเรื่องความเสี่ยงกันด้วยนะครับ
หัวข้อหลัก
- การ Stake ETH คืออะไร?
- ขั้นต่ำในการ Stake ETH เท่าไหร่?
- การ Stake ETH บน OneKey App หรือ Trezor Suite คืออะไร?
- หากต้องการยกเลิกการ stake ได้ไหม?
- การ Stake ETH มีความเสี่ยงไหม?
1. การ Stake ETH คืออะไร?
การ Stake ETH เป็นกระบวนการที่ใช้สำหรับตรวจสอบธุรกรรมบนบล็อคเชน ที่ใช้หลักการ PoS (Proof-of-Stake) คือการวางสินทรัพย์ไว้ในระบบเพื่อแลกกับสิทธิตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม เพื่อรับผลตอบแทนจากการวางสินทรัพย์ไว้ในระบบ หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพในระบบการเงินปัจจุบันคือ การฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ยจากธนาคารนั่นเอง
โดย Ethereum ได้อัพเกรดจาก PoW (Proof-of-Work อนุมัติธุรกรรมโดยการถอดรหัสคณิตศาสตร์) มาเป็น PoS ปัจจุบัน
2. ขั้นต่ำในการ Stake ETH เท่าไหร่?
หลัก ๆ จะมีขั้นต่ำในการ Stake 2 แบบ ได้แก่
Stake ขั้นต่ำ 32 ETH
ในการ Stake ETH หากเราต้องการเป็นคนตรวจสอบการทำธุรกรรม (validator) จะต้องล็อค ETH ขั้นต่ำ 32 ETH และ ดำเนินการผ่าน Software เพื่อที่จะเข้าถึงเครือข่ายชื่อว่า node client และให้ระบบดังกล่าวช่วยทำการยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย Blockchain
ไม่จำกัดขั้นต่ำของจำนวน ETH
หากเรามีไม่ถึง 32 ETH ก็สามารถทำการ Stake แบบ Pool staking ผ่านทางโปรโตคอลต่าง ๆ ที่ดำเนินการบนเครือข่าย Ethereum ได้เช่น Rocket Pool หรือ Lido ซึ่งสามารถฝากผ่านแอพ OneKey หรือ Trezor Suite ได้เช่นกัน โดยไม่ต้องโหลด Software ใด ๆ เพิ่มเติม
3. การ Stake ETH บน OneKey App และ Trezor Suite คืออะไร?
การ Stake ETH บน OneKey App
เป็นการ Stake ETH ไว้กับโปรโตคอลที่ชื่อว่า Lido ไม่ใช่การ Stake กับ OneKey โดยตรง ซึ่ง OneKey เป็นเพียงหน้ากากที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
การ Stake ETH กับ Lido ไม่มีขั้นต่ำในการ Stake ETH แต่แนะนำว่าควรสะสมให้มีประมาณที่มากกว่าค่าแก๊สตะคุ้มค่ามากกว่า ประมาณ 0.1 ETH เมื่อเรา Stake ETH กับ Lido แล้วจะได้รับ stETH เป็นเหมือนเหรียญตัวแทนที่บอกว่าเราเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ใน Pool นี้และรับผลตอบแทนตามสัดส่วนที่มีในทุกวันตาม APR (อัตราร้อยละต่อปี) ที่ปรากกฎ ปัจจุบัน APR อยู่ที่ 3.93%
วิธีการ Stake ผ่าน OneKey App สามารถทำได้ตาม Link นี้
การ Stake ETH บน Trezor Suite
เป็นการ Stake ETH ไว้กับโปรโตคอลที่ชื่อว่า Everstake ไม่ใช่การ Stake กับ Trezor โดยตรง โดย Trezor Suite เป็นเพียงหน้ากากที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
การ Stake ETH กับ Everstake จะมีขั้นต่ำในการ Stake ETH อยู่ที่ 0.1 ETH และควรมีค่าแก๊สเผื่อไว้ประมาณ 0.05 ETH เมื่อเรา Stake ETH กับ Everstake จะได้เหรียญ ETH เช่นเดิมและจะยังไม่ได้ตอบทันที จะเริ่มได้รับผลตอบแทนก็ต่อเมื่อ Pool ที่เราไปครบ 32 ETH แล้วเท่านั้น กล่าวคือ Pool นี้จะต้องรอสะสมให้ครบ 32 ETH ก่อนจึงจะเปิด Node เผื่อได้รับผลตอบแทนได้ โดยผลตอบแทนปัจจุบัน APR อยู่ที่ 3.78%
วิธีการ Stake Trezor Suite สามารถทำได้ตาม Link นี้
4. หากต้องการยกเลิกการ Stake ได้ไหม?
สามารถยกเลิกการ Stake ได้ โดยสามารถกด Unstake ได้ทั้งในบนแอพ OneKey และ Trezor Suite ซึ่งการ Unstake นั้นจะสามารถทำได้ทันทีและรอประมาณ 7 วันแล้วแต่ โปรโตคอล
การ Withdraw ของ Lido ที่ฝากผ่าน OneKey
หากต้องการ Withdraw หรือ Unstake ที่ฝากไว้กับ Lido ที่ Stake ผ่าน OneKey App สามารถเลือกได้ทั้งแบบ Unstake ได้ทันทีและรอ 7 วัน โดย Unstake แบบทันทีจะแลก stETH ได้ที่ DEX ต่าง ๆ อัตราส่วน Best rate อยู่ที่ 1:0.999 และหาก Unstake ผ่าน Lido จะต้องรอประมาณ 7 วันหลังกด Unstake อัตราส่วนอยู่ที่ 1:1
การ Unstake ของ Everstake ที่ฝากผ่าน Trezor
หากต้องการ Unstake ที่ฝากไว้กับ Everstake ที่ Stake ผ่าน Trezor Suite สามารถ Unstake ได้ทันที โดย Unstake ผ่าน Trezor Suite ได้เลย จากนั้นจะได้รับ ETH ทันทีที่ดำเนินธุรกรรมเสร็จสิ้น
5. การ Stake ETH มีความเสี่ยงไหม?
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการ Stake ETH บน OneKey App และ Trezor Suite นั้น ไม่ได้ Stake กับ OneKey หรือ Trezor โดยตรง การ Stake ETH ที่กล่าวมาจะเป็นการกับโปรโตคอล Lido และ Everstake
ความปลอดภัยของการ Stake ETH นั้นจะขึ้นอยู่กับ Smart contract ของ Lido และ Everstake แม้ว่าจะมีการ Open source และได้รับการตรวจสอบแล้ว แต่การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลความเสี่ยงด้วยตนเองก่อนการลงทุนต่าง ๆ
