วางแผนส่งต่อบิตคอยน์ให้คนที่เรารักอย่างไรดี?
Share
วันนี้แอดมินอยากชวนคุยเรื่องที่เราอาจจะมองว่าไกลตัวและยังไม่ถึงเวลา นั่นคือ การเตรียมพร้อมเรื่องการส่งต่อ Bitcoin ให้กับคนที่เรารัก ในกรณีเราจากไปแบบกะทันหัน
เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดครับ แต่การวางแผนไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้คนที่อยู่ข้างหลังเราไม่ต้องมานั่งปวดหัว และได้รับสิ่งที่เราตั้งใจจะส่งต่อให้ครบถ้วนครับ
ทำไมต้องวางแผนในการส่งต่อบิตคอยน์?
ส่วนตัวพวกเราคนที่เก็บสะสมบิตคอยน์เข้าใจกันดีอยู่แล้วครับว่า บิตคอยน์คืออะไร? มีค่ายังไง? การเข้าถึงบิตคอยน์ต้องทำยังไง?
แต่กับบุคคลอื่นที่ไม่เข้าใจบิตคอยน์นั้น จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งนี้มีค่าแค่ไหน? จะเข้าถึงมันได้ยังไง? และที่สำคัญไม่มีองค์กรหรือบริษัทใด ถอนบิตคอยน์ที่เราเก็บด้วยตนเองแทนตัวเราได้เลยครับ ไม่เหมือนธนาคารที่ผู้รับมรดกยื่นเอกสารยืนยันตัวตนและรับมรดกไปได้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องวางแผนการเข้าถึงบิตคอยน์ให้แก่คนที่เรารักครับ
ฝั่งเราที่ต้องการส่งต่อบิตคอยน์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
1. บันทึกข้อมูลสำคัญในการกู้คืนให้ชัดเจน
- Seed phrase เก็บให้ดี ให้ทนต่อสภาพแวดล้อม เช่น จดบันทึกใส่แผ่นเหล็ก (Steel backup) จดไว้หลาย ๆ ชุดและกระจายกันเก็บหลาย ๆ ที่เพื่อลดความเสี่ยง
 - Hardware Wallet จด PIN แยกต่างหาก เพื่อความปลอดภัย
 - ทดสอบ seed phrase ก่อนเก็บ โดยลองกู้คืนกระเป๋าใหม่ด้วย seed phrase นั้น ๆ เพื่อยืนยันว่าบันทึกถูกต้อง
 - พิจารณาใช้ passphrase เพิ่มความปลอดภัย (25th word) เพื่อป้องกันการเข้าถึงแม้มี seed phrase
 - แบ่งเก็บข้อมูลแยกสถานที่ (Geographic Distribution) เก็บ seed phrase และข้อมูลสำคัญในหลายจังหวัดเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
 
2. เลือกผู้สืบทอดที่เราต้องการส่งต่อ
ให้เลือกคนที่เรามั่นใจได้ว่าจะดูแลสินทรัพย์ได้อย่างปลอดภัย และสามารถเข้าใจกระบวนการกู้คืน หรือพร้อมในการเรียนรู้ ควรเลือกไว้อย่างน้อย 1-2 คน เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน
3. ทำพินัยกรรมอย่างชัดเจน
- ระบุให้ชัดเจนว่า ต้องการส่งต่อ Bitcoin ให้ใครบ้าง
 - เลือกการส่งต่อ Seed phrase ได้หลายวิธี เช่น ซ่อนไว้บางส่วนไว้ และแจ้งผู้สืบทอดแบบส่วนตัว โดยจะเข้าถึงกระเป๋าได้นั้นต้องนำมารวมกับอีกส่วนในพินัยกรรม
 - ปรึกษาทนายความ ที่มีความรู้เรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้พินัยกรรมมีผลทางกฎหมาย
 
4. ทำ Multisig (แบบ Advance)
หากเรามั่นใจว่าผู้สืบทอดของเรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าถึงโดยวิธี Multisig ได้ วิธีนี้ก็น่าสนใจครับ
Multisig คืออะไร?
- เป็นระบบที่ต้องใช้ private key หลายตัวในการทำธุรกรรม
 - ตัวอย่าง 2-of-3 setup หมายความว่า จากกุญแจ 3 ดอก ต้องใช้ 2 ดอกถึงจะเข้าถึงเงินได้
 - ป้องกันการถอนเงินโดยคนเดียว ต้องมีการยืนยันร่วมกัน
 
Wallet Software ที่รองรับ Multisig
- Electrum
 - BlueWallet
 - Specter Desktop
 - Nunchuk
 
ฝั่งผู้สืบทอดควรเตรียมตัวอย่างไร เมื่อเราไม่อยู่แล้ว?
1. ตั้งสติและรวบรวมข้อมูล
- ตั้งสติและค้นหาข้อมูลที่มีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Hardware Wallet, PIN หรือ Seed phrase เพื่อทำการกู้คืนกระเป๋า
 - หากมีพินัยกรรมให้ติดต่อทนายความเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม (หากมี)
 - อย่าเร่งรีบ ใช้เวลาศึกษาให้เข้าใจก่อนดำเนินการใด ๆ
 
2. ศึกษาและทำความเข้าใจ
- หากยังไม่เข้าใจเรื่องการกู้คืนกระเป๋าบิตคอยน์หรือทำธุรกรรมของบิตคอยน์ ควรศึกษาก่อนทำธุรกรรมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้
 - สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เก็บ Seed Phrase ให้ดี ไม่ควรเปิดเผยกับใคร
 
สิ่งที่เราควรแนะนำผู้สืบทอด
ข้อห้าม
- อย่าให้ Seed Phrase กับบุคคลอื่นเด็ดขาด เปรียบเสมือนกับการโอนบิตคอยน์ให้เขา
 - อย่าเก็บ Seed Phrase ไว้แบบออนไลน์เด็ดขาด เช่น บันทึกไว้บนคอมพิวเตอร์ มือถือ ถ่ายรูป screenshot หน้าจอ เป็นต้น
 - ระวังมิจฉาชีพทุกรูปแบบ หลอกว่าจะกู้คืนให้ หรือช่วยเหลือต่าง ๆ
 - อย่ากลัวจนไม่กล้าแตะต้อง จนทำให้บิตคอยน์นั้นถูกทิ้งไว้เฉย ๆ
 
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- เริ่มต้นด้วยจำนวนเล็ก ๆ ทดลองส่งบิตคอยน์จำนวนน้อยก่อนเพื่อทดสอบระบบ
 - เก็บหลักฐาน การทำธุรกรรมทุกครั้งเพื่อการคิดภาษี
 - อัพเดตซอฟต์แวร์ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
 
ตัวอย่างการวางแผนแบบต่าง ๆ
แบบที่ 1 การแบ่งส่วน Seed Phrase
บางคนอาจจะวางแผนให้ผู้สืบทอดถือ Seed phrase กันคนละหนึ่งส่วน, ทนายถือหนึ่งส่วน ต้องนำมาประกอบรวมกันถึงจะเข้าถึงบิตคอยน์นั้นได้
แบบที่ 2 การแบ่งกระเป๋าแยกกัน
แบ่งจำนวนบิตคอยน์ให้ผู้สืบทอดแต่ละคน เข้าถึงได้เฉพาะผู้สืบทอดเท่านั้น ให้ Seed Phrase ครึ่งหนึ่งกับผู้สืบทอดและอีกครึ่งฝากไว้กับทนาย เปิดเมื่อเราจากไป
แบบที่ 3 ใช้ Multisig
ใช้ Multisig ในการเข้าถึงกระเป๋าบิตคอยน์ แบบนี้ถึงแม้อาจจะฟังดูยาก แต่แท้จริงแล้วไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ สามารถศึกษาทำความเข้าใจได้ครับ ถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจและปลอดภัยที่สุด
ตัวอย่าง 2-of-3 Multisig Setup
- กุญแจที่ 1 ผู้สืบทอดคนที่ 1 ถือ
 - กุญแจที่ 2 ผู้สืบทอดคนที่ 2 ถือ
 - กุญแจที่ 3 ทนายความหรือผู้ดูแลที่ไว้วางใจถือ
 
สรุป
การวางแผนตั้งแต่วันนี้ อาจช่วยให้คนที่เรารักได้รับสิ่งที่เราตั้งใจมอบให้นะครับ และถ้าอยากเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น การใช้ Hardware Wallet คือทางเลือกที่แอดแนะนำ (ขอแวะขายของหน่อยครับ) เพราะทำให้การจัดการและส่งต่อบิตคอยน์ปลอดภัยและสะดวกมากขึ้นครับ
การวางแผนที่ดีคือการให้ความรู้แก่ผู้สืบทอดควบคู่กับการรักษาความปลอดภัยของ seed phrase ในวันนี้ที่เรายังอยู่ครับ
          