ในยุคที่สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากฟากฝั่งรัฐบาลและเอกชน “สิทธิ์”ในความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ คือ สิ่งสำคัญที่สุด หากคุณก้าวเข้าสู่โลกของ Bitcoin หรือ Crypto currency คุณจะต้องรู้จักคำว่า "Seed Phrase" หรือ "Recovery Phrase" อย่างแน่นอน เพราะนี่ไม่ใช่แค่ชุดคำศัพท์ธรรมดา ๆ แต่มันคือกุญแจหลักที่เชื่อมต่อคุณเข้ากับสินทรัพย์ทั้งหมดของคุณในโลกบล็อกเชน วันนี้เราจะมาคุยรายละเอียดของ Seed Phrase กันว่าคืออะไร
Seed Phrase คืออะไร ?
Seed Phrase คือชุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่แทนกุญแจหลัก (Master Private Key) ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลของเรา ด้วย Seed Phrase เพียงชุดเดียว ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Private Key เพื่อกู้คืนกระเป๋าเงินและสินทรัพย์ทั้งหมดได้แม้เราจะทำอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หายก็ตาม Seed Phrase เองจึงช่วยอำนวยสะดวกและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากกว่า Private Key แบบดั้งเดิม เพราะ การจดบันทึก Private Key แบบดั้งเดิม เป็นการจดชุดตัวอักษรและตัวเลขที่ยาว ซับซ้อนและอ่านไม่เข้าใจ
มาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันคือ BIP-39 (Bitcoin Improvement Proposal 39) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดขั้นตอนการสร้าง Seed Phrase จากข้อมูลสุ่ม (Entropy) ให้กลายเป็นชุดคำที่มนุษย์สามารถอ่านและจดจำได้ง่าย มาตรฐานนี้จึงถูกนำไปใช้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลต่าง ๆ จำนวนมาก ทำให้สามารถโอนย้ายกระเป๋าเงินระหว่างอุปกรณ์หรือโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
กลไกการสร้าง Seed Phrase ตามมาตรฐาน BIP-39
กระบวนการสร้าง Seed Phrase ไม่ใช่แค่การสุ่มคำขึ้นมาแบบธรรมดา แต่เป็นขั้นตอนที่แม่นยำทางคณิตศาสตร์เพื่อรับประกันความปลอดภัยสูงสุด
- สร้าง Entropy (ข้อมูลสุ่ม) : ขั้นแรกคือการสร้างชุดตัวเลขแบบสุ่ม ซึ่งอาจมาจากซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตหรือจากการที่เราเป็นคนสุ่มเองด้วยวิธีการถอยลูกเต๋าก็ได้ โดยความยาวของข้อมูลสุ่มนี้จะกำหนดจำนวนคำใน Seed Phrase เช่น 128 บิตสำหรับ 12 คำ, 256 บิตสำหรับ 24 คำ
- คำนวณ Checksum : ระบบจะสร้างข้อมูลตรวจสอบความถูกต้อง (Checksum) ขึ้นมาและนำไปต่อท้ายข้อมูลสุ่มเดิม เพื่อป้องกันการป้อนคำผิดหรือลำดับคำผิดพลาด
- แบ่งข้อมูลและจับคู่คำ : ข้อมูลทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ละ 11 บิต จากนั้นแต่ละกลุ่มจะถูกนำไปจับคู่กับคำศัพท์เฉพาะใน BIP-39 Wordlist ซึ่งประกอบด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 2,048 คำ ตั้งแต่คำว่า "abandon"(หมายเลข0) ถึง "zoo"(หมายเลข2047)
- ได้ Seed Phrase: ผลลัพธ์คือชุดคำ 12, 18, หรือ 24 คำ ที่ผู้ใช้ต้องจดบันทึกไว้เพื่อสำรองและกู้คืนกระเป๋าเงินในอนาคต
ข้อมูลแบบเจาะลึก สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👉🏻 Seed phrase คืออะไร
ความเป็นไปไม่ได้ของการสุ่มซ้ำ (Collision)
หลายคนอาจกังวลว่า Seed Phrase ของตัวเองจะบังเอิญไปซ้ำกับของคนอื่นได้หรือไม่ แต่ในทางคณิตศาสตร์แล้ว สิ่งนี้“แทบจะเป็นไปไม่ได้”เลย เพราะ จำนวนชุดคำที่เป็นไปได้นั้นมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้
- Seed Phrase 12 คำ : มีความเป็นไปได้ถึง 2,048¹² ชุด หรือประมาณ 5.44 × 10³⁹ แบบ ซึ่งจำนวนนี้มากกว่าจำนวนอะตอมใน“สมอง”ของมนุษย์
- Seed Phrase 24 คำ : มีความเป็นไปได้ถึง 2,048²⁴ ชุด หรือประมาณ 3.04 × 10⁷⁹ แบบ ซึ่งจำนวนนี้มากกว่าจำนวนอะตอมทั้งหมดในจักรวาลที่สังเกตได้เสียอีก!!
การที่จะสุ่มเดา Seed Phrase ให้ตรงกับของใครสักคนนั้นจึงไม่ใช่แค่ “โอกาสน้อย” แต่แทบจะเป็น "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ" แม้จะใช้คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกก็ไม่สามารถโจมตีด้วยการสุ่มแบบ Brute Force ได้ เพราะต้องใช้พลังงานและเวลาที่เกินกว่าขีดจำกัดทางฟิสิกส์ของจักรวาล
วิธีเก็บรักษา Seed Phrase ให้ปลอดภัย
แม้กลไกทางเทคนิคของ Seed Phrase จะแข็งแกร่งฉันใด แต่จุดอ่อนที่แท้จริงกลับอยู่ที่ผู้ใช้งานฉันนั้น การจดบันทึก Seed Phrase อย่างผิดวิธีหรือเก็บในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยสามารถทำให้ความปลอดภัยลดลงอย่างมาก ดังนั้น การทำความเข้าใจวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- เก็บแบบออฟไลน์และบนวัสดุที่ทนทาน : นี่คือวิธีที่ปลอดภัยและง่ายที่สุด จดบันทึก Seed Phrase ลงบนกระดาษคุณภาพดี หรือวัสดุที่ทนทานอย่างแผ่นเหล็ก (Seed Plate/Metal Backup) ซึ่งสามารถกันน้ำ, กันไฟ, และป้องกันความเสียหายจากสภาพแวดล้อมได้ดีกว่ามาก
Bitcast เราเองก็มีอุปกรณ์จัดเก็บอย่างปลอดภัย Seed Phrase ได้อย่างปลอดภัย เช่น Onekey Tag และ Trezor Keep Metal สามารถเข้ามาชมรายละเอียดได้ที่ 👉🏻Bitcast Product
- หลีกเลี่ยงการเก็บแบบดิจิทัลโดยเด็ดขาด : นี่คือข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยที่สุด ห้าม ถ่ายรูป, บันทึกเป็นไฟล์ในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์, หรือเก็บไว้ในอีเมล, Google Drive, หรือบริการคลาวด์ใดๆ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแฮกหรือถูกดักจับข้อมูลได้
- แบ่งเก็บไว้หลายที่ : เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ควรทำสำเนา Seed Phrase ไว้ เพียงอ2-3 ชุดและเก็บไว้ในสถานที่ที่แตกต่างกัน เช่น ที่บ้าน, ในตู้เซฟธนาคาร, หรือเก็บไว้สถานที่ที่เราสามารถเข้าถึงได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรมีมากเกินไป เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการรั่วไหล
- ใช้วิธีการเข้ารหัสเสริม (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) : สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยอีกระดับ สามารถใช้วิธีการที่ซับซ้อนขึ้นได้ เช่น Passphrase เพิ่มเติม (การเพิ่มคำลับอีกคำบน Seed Phrase), Shamir’s Secret Sharing (SSS) (การแบ่ง Seed Phrase เป็นหลายส่วนเพื่อป้องกันการรั่วไหล), หรือ Multi-signature wallet ที่ต้องใช้หลายลายเซ็นเพื่ออนุมัติธุรกรรม
- ห้ามบอก Seed Phrase กับใครเด็ดขาด : Seed Phrase คือ ความลับส่วนตัวของคุณ ห้ามแชร์กับใครเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน, ครอบครัว, หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ เว้นแต่จะเป็นการวางแผนมรดกที่รอบคอบแล้ว
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 👉🏻10 เรื่องที่มือใหม่ควรเข้าใจเกี่ยวกับ Seed Phrase
บทสรุป
Seed Phrase ไม่ใช่แค่รหัสผ่านธรรมดา แต่คือกุญแจหลักของเสรีภาพและอธิปไตยทางการเงินส่วนบุคคล ด้วยกลไกที่อยู่เบื้องหลังแข็งแกร่งจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมาทำลายหรือโอกาสในการสุ่มซ้ำได้ แต่จุดอ่อนที่แท้จริงแล้วกลับอยู่ที่ “การเก็บรักษาของผู้ใช้เอง” เพราะฉะนั้นการทำความเข้าใจและปฏิบัติตามหลักการรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถเก็บรักษาและควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว







Share:
Checklist: 5 ความผิดพลาดที่มือใหม่มักทำเวลาเก็บ Bitcoin เอง (และวิธีหลีกเลี่ยง)
เปรียบเทียบวิธีเชื่อมต่อ Hardware Wallet 4 แบบ / มือใหม่ควรรู้ก่อนซื้อ!