เปรียบเทียบ Hardware wallet แต่ละรุ่นล่าสุด ปี 2024

เปรียบเทียบ Hardware wallet แต่ละรุ่นล่าสุด ปี 2024

หลาย ๆ คนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ น่าจะกำลังเกิดความสงสัยอยู่ว่า “Hardware wallet อันไหนที่เหมาะกับเรา?” หรือหากยังไม่รู้ว่า Hareward wallet คืออะไร? แนะนำไปดูคลิปนี้ก่อนได้นะครับ

มีหลายคนส่งข้อความมาสอบถามผมว่าเขาควรเลือกซื้อ Hardware Wallet อันไหนดี?Hardware wallet นั้นมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการเลือกซื้อ Hardware wallet สักตัวให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเราเองครับ

👉หากใครอยากเห็นภาพรวมก่อน แนะนำดาวน์โหลดไฟล์เปรียบเทียบที่นี่ก่อนครับ

✅ โพสต์นี้เหมาะกับใคร?

ก่อนที่จะอ่านไปไกลกว่านี้ ผมอยากจะแนะนำสักเล็กน้อยว่า บทความนี้เหมาะกับมือใหม่ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ Hardware Wallet อันแรก และอยากทราบว่าแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์อะไรที่เหมาะกับตัวเองบ้างครับ เช่น มือใหม่ที่ต้องการซื้อ Harware Wallet ตัวเริ่มต้น งบน้อย ๆ หรือจะเป็นมือเก๋าที่ต้องการเลือกซื้อเพิ่มอีกสักตัวครับ

 

📍 ทำไมเลือก OneKey, Trezor, Bitbox, Ledger และ KeyStone มาเปรียบเทียบกัน?

เพราะเป็นยี่ห้อที่คนทั่วไปนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหลายรุ่นมีฟีเจอร์ที่คล้าย ๆ กัน ทำให้ยากต่อการตัดสินใจในการซื้อ หากมีตารางที่มาช่วยเปรียบเทียบอาจจะช่วยทำให้เห็นภาพมากขึ้นครับ

👉 เริ่มการเปรียบเทียบ Hardware Wallet

หากพูดถึง Hardware Wallet หลาย ๆ คนในวงการคริปโตน่าจะคุ้นหู้กับยี่ห้อเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Trezor, Ledger, KeyStone หรือน้องใหม่อย่าง OneKey เป็นต้น สำหรับเปรียบเทียบ Hardware Wallet ในบทความนี้ ผมนำตัวที่หลายคนอยากให้เปรียบเทียบกันจากการสำรวจจากหน้าเพจครับ ซึ่งในบทความนี้จะเปรียบเทียบ Hardware Wallet ทั้ง 10 รุ่น จากทั้งหมด 5 ค่ายดังครับ 

หัวข้อในการเปรียบเทียบ Harware Wallet ในครั้งนี้

ผมแยกออกเป็น 8 พาร์ทหลัก ๆ ครับ โดยใช้เครื่องหมาย  ในช่องที่มีหรือสามารถทำได้ และใช้เครื่องหมาย  ในช่องที่ไม่มีหรือไม่สามารถทำได้ ซึ่งหัวข้อทั้ง 8 หัวข้อ ได้แก่

  1. รองรับการใช้งาน
  2. รองรับ Coin & Token
  3. แบตเตอรี่
  4. การเชื่อมต่อ
  5. Firmware
  6. App บนมือถือ
  7. ข้อมูลทั่วไป
  8. หน้าจอ

 

เราไปเริ่มดูกันที่หัวข้อที่ 1 กันก่อนเลยครับ

1. เปรียบเทียบเรื่องการรองรับการใช้งาน

ผมเลือกการรองรับการใช้งานขึ้นมาก่อนเลยครับ เพราะการที่เลือกซื้อ Harware Wallet สักตัวเพื่อมาใช้งานนั้นเราควรที่จะต้องรู้การใช้งานของตัวเองเป็นหลักก่อนครับ เช่น เราใช้งานผ่านมือถือหรือ desktop เป็นหลัก? หรือเราต้องการใช้งาน Wallet แบบไหน?

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

ใช้กับมือถือ  
ใช้กับคอม
ใช้งาน Dapp บนมือถือ

ใช้ Metamask บนมือถือ

 

Fingerprint Lock

U2F Authentication

FIDO 2FA

Wallet ที่รองรับบน Desktop

MetaMask, OKX, Phantom, Sparrow, Rabby, and More MetaMask, OKX, Phantom, Sparrow, Rabby, and More Electrum, MetaMask, Rabby, Bitcoin Core, BlueWallet, Sparrow, and More Electrum, MetaMask, Rabby, Bitcoin Core, BlueWallet, Sparrow, and More Electrum, MetaMask, Rabby, Bitcoin Core, BlueWallet, Sparrow, and More

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02
Multi

ใช้กับมือถือ  
ใช้กับคอม

ใช้งาน Dapp
บนมือถือ

ใช้ Metamask 
บนมือถือ

 

Fingerprint lock

U2F Authentication

FIDO 2FA

Wallet ที่รองรับบน Desktop

MetaMask, Rabby, OKX, Keplr, Sparrow, BlueWallet, Nunchuk, and More Ledger Live, MyEtherWallet, Rainbow, Zerion, MetaMask, MyCrypto, and More Ledger Live, MyEtherWallet, Rainbow, Zerion, MetaMask, MyCrypto, and More Ledger Live, MyEtherWallet, Rainbow, Zerion, MetaMask, MyCrypto, and More

BitBoxApp, Electrum, Specter, Sparrow,  Rabby, MyEtherWallet, and More

 

สรุปในหัวข้อนี้ หากต้องการ Hardware wallet ที่เน้นการใช้งานร่วมกับมือถือได้ ที่ราคาไม่เกิน 6,000 บาท จะแนะนำเป็น OneKey Classic 1S และ Keystone 3 Pro ครับ หรือหากต้องการใช้งานกับ Desktop เป็นหลักแนะนำเป็นตัวเริ่ม OneKey Classic 1S และ Trezor Safe 3 ครับ

2. เปรียบเทียบเรื่องการรองรับ Coin & Token

การรองรับ Coin และ Token หากใครยังไม่เข้าใจความแตกต่างของ Coin และ Token สามารถดูที่บทความนี้ก่อนได้ครับ หลาย ๆ คนมักจะถามกันมาค่อนข้างเยอะสำหรับการรองรับ Coin และ Token ว่ารองรับเหรียญที่ต้องการหรือไม่ทุกรุ่นที่ผมนำมาในบทความนี้จะรองรับ Bitcoin ทุกรุ่นครับ ส่วน Alt-coin (เหรียญหรือโทเค็นอื่น ๆ) ต้องดูตามตารางเลยครับ

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

ตัวอย่าง Alt Coins ที่รองรับ
(เหรียญอื่น ๆ ที่รองรับ)
ETH, USDT, BNB, SHIB, Matic, more Coin & Token ETH, USDT,
BNB, SHIB,
Matic,more 
Coin & Token
ETH,USDT, BNB,DOGE, SHIB,Matic, SOL,WBTC, More ETH,USDT, BNB,DOGE, SHIB,Matic, SOL,WBTC, More  ETH,USDT, BNB,DOGE, SHIB,Matic, SOL,WBTC, More

รองรับ Bitcoin

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02 Multi

ตัวอย่าง Alt Coins ที่รองรับ
(เหรียญอื่น ๆ ที่รองรับ)

ETH,USDT, BNB, SHIB, Matic,Doge
more 5,000+

ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More
รองรับ Bitcoin

 

สรุปในหัวข้อนี้ ผมไม่ได้แนะนำรุ่นไหนเป็นพิเศษครับ เพราะเนื่องจากทุกตัวจะเก็บเหรียญได้แตกต่างกัน ฉะนั้นหากเราต้องการเก็บเหรียญใดเป็นพิเศษสามารถเช็คเหรียญดังกล่าวใน Official website ของแต่ละยี่ห้อก่อนครับ เพื่อความมันใจก่อนการซื้อครับ


 

3. เปรียบเทียบเรื่องแบตเตอรี่

การมีแบตเตอรี่นั้นจะช่วยทำให้เราไม่ต้องเสียบสาย USB เข้ากับแหล่งจ่ายไฟอื่นใช้งาน Hardware Wallet ซึ่งจะช่วยเรื่องการเชื่อมต่อบลูทูธกับมือถือได้ด้วย

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

แบตเตอรี่  

ขนาดแบตเตอรี่
(mAh)

110 530

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02 Multi

แบตเตอรี่

ขนาดแบตเตอรี่
(mAh)
1000 100 200

 

สรุปในหัวข้อนี้รุ่นที่มีขนาดแบตเตอรี่เยอะที่สุดคือ Keystone 3 Pro ครับ ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้นานที่สุดเมื่อเทียบกับทุกยี่ห้อครับ หากเพื่อน คิดว่าราคายังแรงไป ตัวเริ่มต้นจะแนะนำเป็น OneKey classic 1S ครับ

 

4. เปรียบเทียบการเชื่อมต่อกับ Devices อื่น ๆ 

ตารางที่ 1 เปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey
Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

ประเภทสาย USB USB-C USB-C Micro USB USB-C  USB-C
บูลทูธ
NFC

MicroSD card

 

QR scanner

AIR-GAPPED

 

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02
Multi

ประเภทสาย USB USB-C USB-C USB-C USB-C  USB-C
บูลทูธ

NFC

MicroSD card

QR scanner

AIR-GAPPED

 

สรุปในหัวข้อนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าตัวที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ได้หลากหลายสุดจะมี 2 ตัว ได้แก่ Keystone 3 Pro และ OneKey Pro ครับ ฟีเจอร์สำคัญ คือ QR scanner ที่จะช่วยทำให้เราสามารถสแกน QR code ใน wallet ของ Metamask หรือ wallet อื่น ได้ครับ

 

5. เปรียบเทียบ เรื่องSoftware ของ Hardware wallet

Secure Element Chip และ Open Source มาก่อนครับ อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ

Secure Element Chip  คือ การออกแบบที่ทำให้ Hardware Wallet ปลอดภัยมากขึ้น โดยหน้าที่ของ Secure Element Chip มีไว้สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นความลับมาก ๆ ซึ่งโดยทั่วไปก็จะเก็บ Seed Phrase หรือ Master Private Key นั่นเอง 

Open Source คือ Source Code ที่พัฒนาตัว Hardware Wallet ว่าเปิดเผยให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและทุกคนสามารถร่วมกันตรวจสอบ Source Code ของ Hardware Wallet นั้นได้ 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

Bitcoin-Only Firmware
การอัพเกรด Firmware

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB, Bluetooth

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB, Bluetooth

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB

Open Source

จอแสดง PIN แบบสุ่ม

 

Secure Element Chip (Chips)

Certified
Chip EAL6+

4 Certified Chips EAL6+

Certified Chip EAL6+

รองรับ Multiple Seed Phrases


(กำลังพัฒนา)

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02
Multi

Bitcoin-Only Firmware
การอัพเกรด Firmware อัพเกรดแบบ Offline ได้ผ่าน MicroSD Card

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB, Bluetooth

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB, Bluetooth

อัพเกรดแบบ Online

ผ่าน USB

Open Source

บางส่วน บางส่วน บางส่วน

จอแสดง PIN
แบบสุ่ม

Secure Element Chip (Chips)

3 Certified Chips EAL6+

Certified Chip EAL6+

Certified Chip EAL5+

Certified Chip EAL6+

รองรับ Multiple Seed Phrases

3

 

สำหรับเรื่องความปลอดภัยของ Hardware Wallet แล้วความปลอดภัยและความโปร่งใสควรมาเป็นอันดับแรก ครับ แอดมินจึงอาจจะขอให้ความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคือกลุ่มแรกที่เปิดเผย Source Code ถึงได้ความน่าเชื่อถือไปมากกว่าอีกกลุ่มครับ ฉะนั้นจะแนะนำเป็นตัวที่เปิดเผย  Source Code แล้วเท่านั้นครับ

6. Application บนมือถือ

การมี Oficial Application บนมือถือนั้นจะช่วยทำให้เราทำธุรกรรมบางอย่างได้ง่ายขึ้น เช่น ใช้งาน Dapp บางตัวได้ เช็ค portfilo ได้อย่างรวดแรก และยังแจ้งเตือนการทำธุรกรรมต่าง ได้อีกด้วย แต่ใช้ว่าหากไม่มีแอพพิเคชั่นจะไม่สามารถเช็ค portfolio หรือรับแจ้งเตือนการธุรกรรมได้ เรายังสามารถใช้งานแอพ portfoli tracking เจ้าอื่น ในตลาดได้ครับ

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

Android App OneKey App OneKey App Trezor Suite Trezor Suite Trezor Suite

iOS App

OneKey App OneKey App Trezor Suite Trezor Suite Trezor Suite

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02 Multi

Android App

Ledger Live Ledger Live Ledger Live BitBoxApp
iOS App Ledger Live Ledger Live Ledger Live

 

ในหัวข้อนี้ผมไม่ได้แนะนำรุ่นใดเป็นพิเศษ จะมีแค่ Keystone เท่านั้นที่ไม่มี application ต้องใช้ third-party เท่านั้น เช่น Metamask, Rabby เป็นต้น

7. เปรียบเทียบข้อมูลทั่วไป

การเปรียบเทียบข้อมูลทั่วไปนี้จะทำให้เราเห็นว่าการที่มีฟีเจอร์ที่เยอะกว่าก็ต้องมีราคาที่สูงกว่าเป็นเรื่องธรรมดาครับ ฉะนั้นควรเลือกตามที่เราใช้งานเป็นหลักครับ เพื่อที่จะได้ใช้งานอย่างถูกใจครับ

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

ราคาโดยประมาณ(บาท)

ยังไม่รวมภาษี 10%, ค่าจัดส่ง 600฿ , VAT 7%
3,600 11,000 2,200 3,000 6,600
ขนาด(มม.) 86 x 52 x 5.2 90.1 x 54.4 x 7.6 60 x 30 x 6 59 x 32 x 7.4 64 x 39 x 10

น้ำหนัก(กรัม)

20.5 65 12 14  92

วัสดุ

พลาสติก

อลูมิเนียมอัลลอย

พลาสติก

พลาสติก

พลาสติก

รับประกัน (ปี)

1 1 2 2 2
กันน้ำ

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger
Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02
Multi

ราคาโดยประมาณ(บาท)

ยังไม่รวมภาษี 10%, ค่าจัดส่ง 600฿ , VAT 7%
6,000 3,700 5,700 11,000 5,500
ขนาด(มม.) 103.9 x 62.5 x 12.9

62.39 x 17.40 x 8.23

71 x 18.6 x 11.75

84 x 54 x 6

54.5 x 25.4 x 9.6

น้ำหนัก(กรัม)

103 21 34 45.2 12

วัสดุ

ไฟเบอร์กลาส

พลาสติกและสแตนเลส

พลาสติกและสแตนเลส

พลาสติกและอลูมิเนียม

พลาสติกโพลีคาร์บอเนต

รับประกัน (ปี)

2 2 2 2 2
กันน้ำ

 

สรุปจากตารางนี้ผมจะขอแยกออกเป็น 5 ค่ายตามที่นำมาเปรียบเทียบนะครับ

ราคาที่ถูกที่สุดจากฝั่ง OneKey คือ OneKey classic 1S ซึ่งหากจะเน้นเก็บยาว ใช้กับมือถือบ้างจะแนะนำเป็นตัวเริ่มต้นตัวนี้เลยครับ

ราคาที่ถูกที่สุดจากฝั่ง Trezor คือ Trezor Model One ครับ แต่ผมจะแนะนำให้ขยับขึ้นมาอีกนิดเป็น TrezorSafe 3 ครับ เพราะตัวนี้มี Secure Element Chip แล้วครับ

ราคาที่ถูกที่สุดจากฝั่ง Ledger คือ Ledger Nano S Plus ครับ หากเริ่มต้นกับ desktop ใช้งานตัวนี้ก็เพียงพอครับ

8. เปรียบเทียบเรื่องหน้าจอ

หลาย คนต้องการหน้าจอที่ใหญ่เพื่อเวลาที่ sign transaction จะได้อ่านได้ชัด ครับ จอใหญ่จะได้เปรียบมากกว่าครับ แต่ราคาก็จะสูงกว่าตัวเริ่มต้นเช่นกันครับ

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5

OneKey Classic 1S

OneKey Pro

Trezor 
Model One

Trezor
Safe 3

Trezor
Model T

ขนาดหน้าจอ(นิ้ว)

2 3.5 0.96 0.96 1.54
ประเภทหน้าจอ OLED IPS
OLED OLED LCD

ความละเอียดหน้าจอ(px)

128 x 64 480 × 800 128 x 64 128 x 64  240 x 240

Touch screen

หน้าจอสี

 

ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10

 Keystone 3 Pro

Ledger Nano S Plus

 Ledger
Nano X


Ledger 
Stax

BitBox02
Multi

ขนาดหน้าจอ(นิ้ว)

4 1.18 2.4 3.7 1.38
ประเภทหน้าจอ LCD

LED

LED

E-Ink

OLED

ความละเอียดหน้าจอ(px)

800 x 480 128 x 64 128 x 64 400 x 672 129 x 64

Touch screen

 

หน้าจอสี

 

สรุปจากตารางนี้จะเห็นได้ว่า Keystone 3 Pro ให้หน้าจอที่ใหญ่ขนาด 4 นิ้วแบบสะใจมาเลยครับ ซึ่งราคายังอยู่ในโซนกลาง อีกด้วยนะครับ

 

บทสรุปสั้น ๆ จากแอดมิน

สามารถดาวโหลดตารางสรุปเปรียบเทียบแบบสั้น ๆ ได้ที่นี่ครับ

ในความคิดเห็นของแอดมินคิดว่าเราควรเลือกซื้อ Hardware wallet จากการใช้งานเป็นหลักครับ หากใครเลือกไม่ได้จะแนะนำให้ใช้ตัวเริ่มต้นจากแต่ละค่ายไปก่อนครับ เช่น OneKey Classic 1S, Keystone 3 Pro, Ledger Nano S Plus ครับ

หากถามแอดมินว่าให้เลือก Hardware wallet สักตัวคงจะเลือกเป็น Keystone 3 Pro ครับ เพราะแอดมินชอบใช้งานผ่านมือถือและตัวนี้ยังเชื่อมต่อ Metamask บนมือถือได้อีกด้วยครับ แถมยังราคาไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่งต่างจากรุ่นเริ่มต้นจากแต่ละค่ายไม่มากนัก จึงถือว่าตอบโจทย์การใช้งานของแอดมินครับ แล้วทุกคนคิดว่าตัวเองเหมาะกับรุ่นไหนครับ?

สุดท้ายนี้บทความนี้ค่อนข้างยาวมาก ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบครับ หวังว่าตารางในบทความนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อ Hardware wallet ตัวแรกหรือตัวถัดไปได้นะครับ

กลับไปยังบล็อก

แสดงความคิดเห็น

โปรดทราบว่าความคิดเห็นจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่จะได้รับการเผยแพร่