หลาย ๆ คนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ น่าจะกำลังเกิดความสงสัยอยู่ว่า “Hardware wallet อันไหนที่เหมาะกับเรา?” หรือหากยังไม่รู้ว่า Hareward wallet คืออะไร? แนะนำไปดูคลิปนี้ก่อนได้นะครับ
มีหลายคนส่งข้อความมาสอบถามผมว่าเขาควรเลือกซื้อ Hardware Wallet อันไหนดี?Hardware wallet นั้นมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการเลือกซื้อ Hardware wallet สักตัวให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเราเองครับ
👉หากใครอยากเห็นภาพรวมก่อน แนะนำดาวน์โหลดไฟล์เปรียบเทียบที่นี่ก่อนครับ
✅ โพสต์นี้เหมาะกับใคร?
ก่อนที่จะอ่านไปไกลกว่านี้ ผมอยากจะแนะนำสักเล็กน้อยว่า บทความนี้เหมาะกับมือใหม่ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ Hardware Wallet อันแรก และอยากทราบว่าแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์อะไรที่เหมาะกับตัวเองบ้างครับ เช่น มือใหม่ที่ต้องการซื้อ Harware Wallet ตัวเริ่มต้น งบน้อย ๆ หรือจะเป็นมือเก๋าที่ต้องการเลือกซื้อเพิ่มอีกสักตัวครับ
📍 ทำไมเลือก OneKey, Trezor, Bitbox, Ledger และ KeyStone มาเปรียบเทียบกัน?
เพราะเป็นยี่ห้อที่คนทั่วไปนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหลายรุ่นมีฟีเจอร์ที่คล้าย ๆ กัน ทำให้ยากต่อการตัดสินใจในการซื้อ หากมีตารางที่มาช่วยเปรียบเทียบอาจจะช่วยทำให้เห็นภาพมากขึ้นครับ
👉 เริ่มการเปรียบเทียบ Hardware Wallet
หากพูดถึง Hardware Wallet หลาย ๆ คนในวงการคริปโตน่าจะคุ้นหู้กับยี่ห้อเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Trezor, Ledger, KeyStone หรือน้องใหม่อย่าง OneKey เป็นต้น สำหรับเปรียบเทียบ Hardware Wallet ในบทความนี้ ผมนำตัวที่หลายคนอยากให้เปรียบเทียบกันจากการสำรวจจากหน้าเพจครับ ซึ่งในบทความนี้จะเปรียบเทียบ Hardware Wallet ทั้ง 10 รุ่น จากทั้งหมด 5 ค่ายดังครับ
หัวข้อในการเปรียบเทียบ Harware Wallet ในครั้งนี้
ผมแยกออกเป็น 8 พาร์ทหลัก ๆ ครับ โดยใช้เครื่องหมาย ✅ ในช่องที่มีหรือสามารถทำได้ และใช้เครื่องหมาย ❌ ในช่องที่ไม่มีหรือไม่สามารถทำได้ ซึ่งหัวข้อทั้ง 8 หัวข้อ ได้แก่
- รองรับการใช้งาน
- รองรับ Coin & Token
- แบตเตอรี่
- การเชื่อมต่อ
- Firmware
- App บนมือถือ
- ข้อมูลทั่วไป
- หน้าจอ
เราไปเริ่มดูกันที่หัวข้อที่ 1 กันก่อนเลยครับ
1. เปรียบเทียบเรื่องการรองรับการใช้งาน
ผมเลือกการรองรับการใช้งานขึ้นมาก่อนเลยครับ เพราะการที่เลือกซื้อ Harware Wallet สักตัวเพื่อมาใช้งานนั้นเราควรที่จะต้องรู้การใช้งานของตัวเองเป็นหลักก่อนครับ เช่น เราใช้งานผ่านมือถือหรือ desktop เป็นหลัก? หรือเราต้องการใช้งาน Wallet แบบไหน?
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
ใช้กับมือถือ | ✅ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
ใช้กับคอม | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
ใช้งาน Dapp บนมือถือ | ✅ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
ใช้ Metamask บนมือถือ |
❌ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
Fingerprint Lock |
❌ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
U2F Authentication |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
FIDO 2FA |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
Wallet ที่รองรับบน Desktop |
MetaMask, OKX, Phantom, Sparrow, Rabby, and More | MetaMask, OKX, Phantom, Sparrow, Rabby, and More | Electrum, MetaMask, Rabby, Bitcoin Core, BlueWallet, Sparrow, and More | Electrum, MetaMask, Rabby, Bitcoin Core, BlueWallet, Sparrow, and More | Electrum, MetaMask, Rabby, Bitcoin Core, BlueWallet, Sparrow, and More |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 |
|
ใช้กับมือถือ | ✅ | ❌ | ✅ | ✅ | ❌ |
ใช้กับคอม | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
ใช้งาน Dapp |
✅ | ❌ | ✅ | ✅ | ❌ |
ใช้ Metamask |
✅ | ❌ | ✅ | ✅ | ❌ |
Fingerprint lock |
✅ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
U2F Authentication |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
FIDO 2FA |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
Wallet ที่รองรับบน Desktop |
MetaMask, Rabby, OKX, Keplr, Sparrow, BlueWallet, Nunchuk, and More | Ledger Live, MyEtherWallet, Rainbow, Zerion, MetaMask, MyCrypto, and More | Ledger Live, MyEtherWallet, Rainbow, Zerion, MetaMask, MyCrypto, and More | Ledger Live, MyEtherWallet, Rainbow, Zerion, MetaMask, MyCrypto, and More |
BitBoxApp, Electrum, Specter, Sparrow, Rabby, MyEtherWallet, and More |
สรุปในหัวข้อนี้ หากต้องการ Hardware wallet ที่เน้นการใช้งานร่วมกับมือถือได้ ที่ราคาไม่เกิน 6,000 บาท จะแนะนำเป็น OneKey Classic 1S และ Keystone 3 Pro ครับ หรือหากต้องการใช้งานกับ Desktop เป็นหลักแนะนำเป็นตัวเริ่ม OneKey Classic 1S และ Trezor Safe 3 ครับ
2. เปรียบเทียบเรื่องการรองรับ Coin & Token
การรองรับ Coin และ Token หากใครยังไม่เข้าใจความแตกต่างของ Coin และ Token สามารถดูที่บทความนี้ก่อนได้ครับ หลาย ๆ คนมักจะถามกันมาค่อนข้างเยอะสำหรับการรองรับ Coin และ Token ว่ารองรับเหรียญที่ต้องการหรือไม่ทุกรุ่นที่ผมนำมาในบทความนี้จะรองรับ Bitcoin ทุกรุ่นครับ ส่วน Alt-coin (เหรียญหรือโทเค็นอื่น ๆ) ต้องดูตามตารางเลยครับ
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
ตัวอย่าง Alt Coins ที่รองรับ (เหรียญอื่น ๆ ที่รองรับ) |
ETH, USDT, BNB, SHIB, Matic, more Coin & Token |
ETH, USDT, BNB, SHIB, Matic,more Coin & Token |
ETH,USDT, BNB,DOGE, SHIB,Matic, SOL,WBTC, More | ETH,USDT, BNB,DOGE, SHIB,Matic, SOL,WBTC, More | ETH,USDT, BNB,DOGE, SHIB,Matic, SOL,WBTC, More |
รองรับ Bitcoin |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 Multi |
|
ตัวอย่าง Alt Coins ที่รองรับ (เหรียญอื่น ๆ ที่รองรับ) |
ETH,USDT, BNB, SHIB, Matic,Doge |
ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More | ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More | ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More | ETH, USDT, BNB, XRP, ADA, OGE, SHIB, Matic, More |
รองรับ Bitcoin | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
สรุปในหัวข้อนี้ ผมไม่ได้แนะนำรุ่นไหนเป็นพิเศษครับ เพราะเนื่องจากทุกตัวจะเก็บเหรียญได้แตกต่างกัน ฉะนั้นหากเราต้องการเก็บเหรียญใดเป็นพิเศษสามารถเช็คเหรียญดังกล่าวใน Official website ของแต่ละยี่ห้อก่อนครับ เพื่อความมันใจก่อนการซื้อครับ
3. เปรียบเทียบเรื่องแบตเตอรี่
การมีแบตเตอรี่นั้นจะช่วยทำให้เราไม่ต้องเสียบสาย USB เข้ากับแหล่งจ่ายไฟอื่นใช้งาน Hardware Wallet ซึ่งจะช่วยเรื่องการเชื่อมต่อบลูทูธกับมือถือได้ด้วย
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
แบตเตอรี่ | ✅ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
ขนาดแบตเตอรี่ |
110 | 530 | ❌ | ❌ | ❌ |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 Multi |
|
แบตเตอรี่ |
✅ |
❌ | ✅ | ✅ | ❌ |
ขนาดแบตเตอรี่ (mAh) |
1000 | ❌ | 100 | 200 | ❌ |
สรุปในหัวข้อนี้รุ่นที่มีขนาดแบตเตอรี่เยอะที่สุดคือ Keystone 3 Pro ครับ ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้นานที่สุดเมื่อเทียบกับทุกยี่ห้อครับ หากเพื่อน ๆ คิดว่าราคายังแรงไป ตัวเริ่มต้นจะแนะนำเป็น OneKey classic 1S ครับ
4. เปรียบเทียบการเชื่อมต่อกับ Devices อื่น ๆ
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
ประเภทสาย USB | USB-C | USB-C | Micro USB | USB-C | USB-C |
บูลทูธ | ✅ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
NFC | ❌ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
MicroSD card |
❌ | ❌ | ❌ | ❌ | ✅ |
QR scanner |
❌ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
AIR-GAPPED |
❌ | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ |
ตารางที่ 2 เปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 |
|
ประเภทสาย USB | USB-C | USB-C | USB-C | USB-C | USB-C |
บูลทูธ | ✅ | ❌ | ✅ | ✅ | ❌ |
NFC |
✅ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
MicroSD card |
✅ | ❌ | ❌ | ❌ | ✅ |
QR scanner |
✅ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
AIR-GAPPED |
✅ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
สรุปในหัวข้อนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าตัวที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ได้หลากหลายสุดจะมี 2 ตัว ได้แก่ Keystone 3 Pro และ OneKey Pro ครับ ฟีเจอร์สำคัญ ๆ คือ QR scanner ที่จะช่วยทำให้เราสามารถสแกน QR code ใน wallet ของ Metamask หรือ wallet อื่น ๆ ได้ครับ
5. เปรียบเทียบ เรื่องSoftware ของ Hardware wallet
Secure Element Chip และ Open Source มาก่อนครับ อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ
Secure Element Chip คือ การออกแบบที่ทำให้ Hardware Wallet ปลอดภัยมากขึ้น โดยหน้าที่ของ Secure Element Chip มีไว้สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นความลับมาก ๆ ซึ่งโดยทั่วไปก็จะเก็บ Seed Phrase หรือ Master Private Key นั่นเอง
Open Source คือ Source Code ที่พัฒนาตัว Hardware Wallet ว่าเปิดเผยให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและทุกคนสามารถร่วมกันตรวจสอบ Source Code ของ Hardware Wallet นั้นได้
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
Bitcoin-Only Firmware | ❌ | ❌ | ✅ | ✅ | ✅ |
การอัพเกรด Firmware |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB, Bluetooth |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB, Bluetooth |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB |
Open Source | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
จอแสดง PIN แบบสุ่ม |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ✅ |
Secure Element Chip (Chips) |
Certified |
4 Certified Chips EAL6+ |
❌ |
Certified Chip EAL6+ |
❌ |
รองรับ Multiple Seed Phrases |
❌ | ❌ (กำลังพัฒนา) |
❌ | ❌ | ❌ |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 |
|
Bitcoin-Only Firmware | ✅ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
การอัพเกรด Firmware | อัพเกรดแบบ Offline ได้ผ่าน MicroSD Card |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB, Bluetooth |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB, Bluetooth |
อัพเกรดแบบ Online ผ่าน USB |
Open Source |
✅ | บางส่วน | บางส่วน | บางส่วน | ✅ |
จอแสดง PIN |
✅ | ✅ | ✅ | ✅ | ❌ |
Secure Element Chip (Chips) |
3 Certified Chips EAL6+ |
Certified Chip EAL6+ |
Certified Chip EAL5+ |
Certified Chip EAL6+ |
✅ |
รองรับ Multiple Seed Phrases |
3 | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
สำหรับเรื่องความปลอดภัยของ Hardware Wallet แล้วความปลอดภัยและความโปร่งใสควรมาเป็นอันดับแรก ๆ ครับ แอดมินจึงอาจจะขอให้ความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคือกลุ่มแรกที่เปิดเผย Source Code ถึงได้ความน่าเชื่อถือไปมากกว่าอีกกลุ่มครับ ฉะนั้นจะแนะนำเป็นตัวที่เปิดเผย Source Code แล้วเท่านั้นครับ
6. Application บนมือถือ
การมี Oficial Application บนมือถือนั้นจะช่วยทำให้เราทำธุรกรรมบางอย่างได้ง่ายขึ้น เช่น ใช้งาน Dapp บางตัวได้ เช็ค portfilo ได้อย่างรวดแรก และยังแจ้งเตือนการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อีกด้วย แต่ใช้ว่าหากไม่มีแอพพิเคชั่นจะไม่สามารถเช็ค portfolio หรือรับแจ้งเตือนการธุรกรรมได้ เรายังสามารถใช้งานแอพ portfoli tracking เจ้าอื่น ๆ ในตลาดได้ครับ
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
Android App | OneKey App | OneKey App | Trezor Suite | Trezor Suite | Trezor Suite |
iOS App |
OneKey App | OneKey App | Trezor Suite | Trezor Suite | Trezor Suite |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 Multi |
|
Android App |
❌ |
Ledger Live | Ledger Live | Ledger Live | BitBoxApp |
iOS App | ❌ | Ledger Live | Ledger Live | Ledger Live | ❌ |
ในหัวข้อนี้ผมไม่ได้แนะนำรุ่นใดเป็นพิเศษ จะมีแค่ Keystone เท่านั้นที่ไม่มี application ต้องใช้ third-party เท่านั้น เช่น Metamask, Rabby เป็นต้น
7. เปรียบเทียบข้อมูลทั่วไป
การเปรียบเทียบข้อมูลทั่วไปนี้จะทำให้เราเห็นว่าการที่มีฟีเจอร์ที่เยอะกว่าก็ต้องมีราคาที่สูงกว่าเป็นเรื่องธรรมดาครับ ฉะนั้นควรเลือกตามที่เราใช้งานเป็นหลักครับ เพื่อที่จะได้ใช้งานอย่างถูกใจครับ
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
ราคาโดยประมาณ(บาท) ยังไม่รวมภาษี 10%, ค่าจัดส่ง 600฿ , VAT 7% |
3,600 | 11,000 | 2,200 | 3,000 | 6,600 |
ขนาด(มม.) | 86 x 52 x 5.2 | 90.1 x 54.4 x 7.6 | 60 x 30 x 6 | 59 x 32 x 7.4 | 64 x 39 x 10 |
น้ำหนัก(กรัม) |
20.5 | 65 | 12 | 14 | 92 |
วัสดุ |
พลาสติก |
อลูมิเนียมอัลลอย |
พลาสติก |
พลาสติก |
พลาสติก |
รับประกัน (ปี) |
1 | 1 | 2 | 2 | 2 |
กันน้ำ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger |
Ledger |
|
BitBox02 |
|
ราคาโดยประมาณ(บาท) ยังไม่รวมภาษี 10%, ค่าจัดส่ง 600฿ , VAT 7% |
6,000 | 3,700 | 5,700 | 11,000 | 5,500 |
ขนาด(มม.) | 103.9 x 62.5 x 12.9 |
62.39 x 17.40 x 8.23 |
71 x 18.6 x 11.75 |
84 x 54 x 6 |
54.5 x 25.4 x 9.6 |
น้ำหนัก(กรัม) |
103 | 21 | 34 | 45.2 | 12 |
วัสดุ |
ไฟเบอร์กลาส |
พลาสติกและสแตนเลส |
พลาสติกและสแตนเลส |
พลาสติกและอลูมิเนียม |
พลาสติกโพลีคาร์บอเนต |
รับประกัน (ปี) |
2 | 2 | 2 | 2 | 2 |
กันน้ำ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
สรุปจากตารางนี้ผมจะขอแยกออกเป็น 5 ค่ายตามที่นำมาเปรียบเทียบนะครับ
ราคาที่ถูกที่สุดจากฝั่ง OneKey คือ OneKey classic 1S ซึ่งหากจะเน้นเก็บยาว ใช้กับมือถือบ้างจะแนะนำเป็นตัวเริ่มต้นตัวนี้เลยครับ
ราคาที่ถูกที่สุดจากฝั่ง Trezor คือ Trezor Model One ครับ แต่ผมจะแนะนำให้ขยับขึ้นมาอีกนิดเป็น TrezorSafe 3 ครับ เพราะตัวนี้มี Secure Element Chip แล้วครับ
ราคาที่ถูกที่สุดจากฝั่ง Ledger คือ Ledger Nano S Plus ครับ หากเริ่มต้นกับ desktop ใช้งานตัวนี้ก็เพียงพอครับ
8. เปรียบเทียบเรื่องหน้าจอ
หลาย ๆ คนต้องการหน้าจอที่ใหญ่เพื่อเวลาที่ sign transaction จะได้อ่านได้ชัด ๆ ครับ จอใหญ่จะได้เปรียบมากกว่าครับ แต่ราคาก็จะสูงกว่าตัวเริ่มต้นเช่นกันครับ
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 1-5
OneKey Classic 1S |
OneKey Pro |
Trezor |
Trezor |
Trezor |
|
ขนาดหน้าจอ(นิ้ว) |
2 | 3.5 | 0.96 | 0.96 | 1.54 |
ประเภทหน้าจอ | OLED |
IPS |
OLED | OLED | LCD |
ความละเอียดหน้าจอ(px) |
128 x 64 | 480 × 800 | 128 x 64 | 128 x 64 | 240 x 240 |
Touch screen |
❌ |
✅ |
❌ |
❌ |
✅ |
หน้าจอสี |
❌ | ✅ | ❌ | ❌ | ✅ |
ตารางเปรียบเทียบ Hardware wallet รุ่นที่ 6-10
Keystone 3 Pro |
Ledger Nano S Plus |
Ledger |
|
BitBox02 |
|
ขนาดหน้าจอ(นิ้ว) |
4 | 1.18 | 2.4 | 3.7 | 1.38 |
ประเภทหน้าจอ | LCD |
LED |
LED |
E-Ink |
OLED |
ความละเอียดหน้าจอ(px) |
800 x 480 | 128 x 64 | 128 x 64 | 400 x 672 | 129 x 64 |
Touch screen |
✅ |
❌ |
❌ |
✅ |
❌ |
หน้าจอสี |
❌ | ❌ | ❌ | ❌ | ❌ |
สรุปจากตารางนี้จะเห็นได้ว่า Keystone 3 Pro ให้หน้าจอที่ใหญ่ขนาด 4 นิ้วแบบสะใจมาเลยครับ ซึ่งราคายังอยู่ในโซนกลาง ๆ อีกด้วยนะครับ
บทสรุปสั้น ๆ จากแอดมิน
สามารถดาวโหลดตารางสรุปเปรียบเทียบแบบสั้น ๆ ได้ที่นี่ครับ
ในความคิดเห็นของแอดมินคิดว่าเราควรเลือกซื้อ Hardware wallet จากการใช้งานเป็นหลักครับ หากใครเลือกไม่ได้จะแนะนำให้ใช้ตัวเริ่มต้นจากแต่ละค่ายไปก่อนครับ เช่น OneKey Classic 1S, Keystone 3 Pro, Ledger Nano S Plus ครับ
หากถามแอดมินว่าให้เลือก Hardware wallet สักตัวคงจะเลือกเป็น Keystone 3 Pro ครับ เพราะแอดมินชอบใช้งานผ่านมือถือและตัวนี้ยังเชื่อมต่อ Metamask บนมือถือได้อีกด้วยครับ แถมยังราคาไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่งต่างจากรุ่นเริ่มต้นจากแต่ละค่ายไม่มากนัก จึงถือว่าตอบโจทย์การใช้งานของแอดมินครับ แล้วทุกคนคิดว่าตัวเองเหมาะกับรุ่นไหนครับ?
สุดท้ายนี้บทความนี้ค่อนข้างยาวมาก ๆ ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบครับ หวังว่าตารางในบทความนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อ Hardware wallet ตัวแรกหรือตัวถัดไปได้นะครับ