ปัจจุบันที่ Bitcoin Wallet สำหรับใช้บริหารจัดการ Bitcoin และ Crypto หลากหลายยี่ห้อ ทำให้ผู้ที่เริ่มต้นใช้งานนั้นเลือก Bitcoin Wallet ให้เหมาะกับตนเองได้ลำบาก ในบทความนี้ผู้เขียนจะแนะนำ 4 Bitcoin Wallet ที่นิยม ได้แก่ Electrum, BlueWallet, Exodus และ Sparrow
ในบทความนี้จะเปรียบคุณสมบัติสำคัญ ข้อดีและข้อเสีย รวมถึงการใช้งานที่เหมาะสมของแต่ละกระเป๋าเงิน พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น และตารางเปรียบเทียบที่ช่วยให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเคยใช้งานมาแล้ว บทความนี้จะช่วยให้คุณเลือก Bitcoin Wallet ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้น
1. Electrum - Bitcoin Wallet Only

ที่มาของภาพ: https://electrum.org/
Electrum เป็นหนึ่งใน Bitcoin Wallet ที่เก่าแก่ที่สุด ซอฟต์แวร์เป็นโอเพนซอร์สและเผยแพร่ภายใต้ MIT License ทำให้สามารถใช้งานได้ฟรีและเปิดให้ตรวจสอบโค้ดได้
Electrum ถูกสร้างขึ้นในปี 2011 โดย Thomas Voegtlin นักวิจัยที่ INRIA จุดเด่นของ Electrum คือความเร็วและความปลอดภัย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่ผู้ใช้ Bitcoin
อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องใช้จัดการ Cryptocurrency อื่น ๆ เนื่องจาก Electrum จะสามารถจัดการได้แค่ Bitcoin เท่านั้น
Electrum อาจมีความซับซ้อนในการใช้งานครั้งแรก จึงอาจต้องใช้เวลาสักระยะในการทำความคุ้นเคย
คุณสมบัติหลักของ Electrum
- ความเร็วและประสิทธิภาพ
Electrum ใช้การประมวลผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ในการจัดการส่วนที่ซับซ้อนของระบบ Bitcoin ช่วยให้การทำงานรวดเร็วและใช้ทรัพยากรน้อย โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดบล็อกเชนทั้งหมด
- รองรับ Multi-signature
Electrum อนุญาตให้ทำธุรกรรมแบบ multi-signature (multisig) ซึ่งต้องการการอนุมัติหลายรายชื่อเพื่ออนุมัติการทำธุรกรรม
- ทำงานร่วมกับ Hardware Wallet ได้
Electrum สามารถทำงานร่วมกับ Hardware Wallet ยอดนิยม เช่น OneKey, Ledger, Trezor และ Coldcard
- รองรับ Lightning Network
Electrum รองรับ Lightning Network ของ Bitcoin ช่วยให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมต่ำลง
- รองรับ SegWit Address
Electrum รองรับ Segregated Witness (SegWit) เพื่อช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
- Seed 12/24 คำที่ electrum generate นำไป recover บนกระเป๋าอื่นไม่ได้ แต่สามารถเอา seed 12/24 คำจากกระเป๋าอื่นที่เป็น bip39 มา recover บน electrum ได้(ขอบคุณข้อมูลจากผู้ใช้เฟสบุ๊คนามว่า Thanomsak Liumsuwan ด้วยนะครับ)
ข้อดีและข้อเสียของ Electrum
ข้อดี:
- รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ประมวลผลในการจัดการงานที่ซับซ้อน
- มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่สูง รวมถึง cold storage, multisig และรองรับ Hardware Wallet
- เป็นโอเพนซอร์ส ทำให้มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบโดยชุมชนได้
- ใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง PC, Mac, Linux และ Android
- รองรับเฉพาะ Bitcoin ไม่รองรับสกุลเงิน Cryptocurrency อื่น ๆ เช่น Ethereum หรือ altcoin ทำให้ปลอดภัยมากช่องโหว่จากเหรียญอื่นไม่มี
ข้อเสีย:
- รองรับเฉพาะ Bitcoin ไม่รองรับสกุลเงิน Cryptocurrency อื่น ๆ เช่น Ethereum หรือ altcoin
- กระเป๋าเงินอาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะเมื่อใช้คุณสมบัติขั้นสูง เช่น เครือข่าย Lightning
- ไม่รองรับ iOS
2. BlueWallet - Bitcoin Wallet ที่รองรับ Lightning Network

ที่มาของภาพ: https://bluewallet.io/
BlueWallet เป็น Bitcoin Wallet ที่เป็นหนึ่งในเรื่อง Lightning Wallet โดยอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถรวมโซลูชันการจัดเก็บแบบ cold storage ได้
BlueWallet มีให้ใช้งานเป็นแอปโอเพนซอร์สสำหรับ iOS, Android และบนเดสก์ท็อป การออกแบบของ BlueWallet เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ที่มีประสบการณ์แล้วโดยรวมแล้วถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับผู้ใช้ในขณะที่มีคุณสมบัติขั้นสูงสำหรับการทำธุรกรรมและการจัดการ Bitcoin
คุณสมบัติหลัก:
- รองรับธุรกรรม Bitcoin แบบดั้งเดิมและเครือข่าย Lightning
- โหมดดูอย่างเดียว (Watch only) คุณสมบัตินี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ BlueWallet กับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และโซลูชันการจัดเก็บแบบ cold storage อื่น ๆ ได้
- ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ cold storage หรือ Paper Wallet ของตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผย Private Key
- MultiSig-Vaults ซึ่งต้องใช้ Private Key หลายอันเพื่ออนุมัติธุรกรรม เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- การออกแบบที่เน้นมือถือเป็นหลัก: ใช้งานง่ายและนำทางได้สะดวก ทำให้เข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน
- โอเพนซอร์ส: โปร่งใส ทุกคนสามารถตรวจสอบโค้ดได้
ข้อดีและข้อเสียของ BlueWallet
ข้อดี:
- อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย: การออกแบบที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย ผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน
- คุณสมบัติความปลอดภัยขั้นสูง: รวมถึง MultiSig vaults, การเข้ารหัสรหัสผ่าน และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ
- โอเพนซอร์ส: มีความโปร่งใสและการพัฒนาโดยชุมชน
- โหมดดูอย่างเดียว (Watch-only) อนุญาตให้เชื่อมต่อกับ Hardware Wallet ได้
- รองรับเฉพาะ Bitcoin: ไม่รองรับสกุลเงิน Cryptocurrency อื่น ๆ เช่น Ethereum หรือ altcoin ทำให้ปลอดภัยมากช่องโหว่จากเหรียญอื่นไม่มี
ข้อเสีย:
- ไม่มีการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA): ซึ่งเป็นคุณสมบัติความปลอดภัยทั่วไปในกระเป๋าเงินอื่น ๆ หลายราย
- รองรับเฉพาะ Bitcoin: ไม่รองรับ Cryptocurrency อื่น ๆ จำกัดการใช้งานเฉพาะ Bitcoin เท่านั้น
- ไม่รองรับ Lightning Network (นำออกไปแล้ว) ต้องใช้ hub ของตัวเอง https://bluewallet.io/sunsetting-lndhub/?ref=btctimes.com (ขอบคุณข้อมูลจากผู้ใช้เฟสบุ๊คนามว่า Kittisak Phetrungnapha ด้วยนะครับ)
3. Exodus Wallet - ดีที่สุดสำหรับเชื่อมต่อ กับ Cold storage

ที่มาของภาพ: https://www.exodus.com/
Exodus เป็นกระเป๋าเงิน Bitcoin และ Cryptocurrency ที่รองรับเครือข่ายบล็อกเชนมากกว่า 50 เครือข่าย
สิ่งที่ทำให้ Exodus เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงิน BTC ที่ดีที่สุดคือความหลากหลาย โดยสามารถใช้งานเป็นกระเป๋าเงินบนเดสก์ท็อป (Browser extension) และแอปมือถือบน iOS และ Android มีคุณสมบัติมากมาย รองรับเครือข่ายบล็อกเชนจำนวนมาก การทำ staking Cryptocurrency และการจัดการ NFT
คุณสมบัติหลักของ Exodus Wallet
- การรองรับหลากหลายบล็อกเชน
รองรับเครือข่ายต่าง ๆ รวมถึง Ethereum, Solana, BSC และ Algorand ช่วยให้สามารถใช้งาน dApps ใน Ecosytem ที่แตกต่างกันได้
- รองรับ NFT และ Hardware Wallet
รองรับ NFT และทำงานร่วมกับ Hardware Wallet เช่น OneKey, Trezor, Ledger ได้
- มีช่องทางแลกเปลี่ยนเงิน Fiat
อำนวยความสะดวกในการซื้อ Bitcoin และ Cryptocurrency ด้วยเงิน Fiat ผ่านบริการต่าง ๆ เช่น Moonpay, Ramp, Sardine และ Robinhood Connect ผู้ใช้สามารถซื้อ Bitcoin และ Cryptocurrency โดยใช้บัตรเดบิตหรือเครดิตโดยตรงเข้าสู่กระเป๋าเงิน Exodus ของตนเอง
- การ Swap
ช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin และ Cryptocurrency เป็นโทเค็นอื่น ๆ ได้โดยตรงภายในแอป
- การทำ Staking Cryptocurrency ได้
รองรับการทำ staking ในแอปสำหรับ Cryptocurrency ยอดนิยม เช่น ETH, SOL, ADA และ ATOM
- การ Export ไฟล์ธุรกรรม
อนุญาตให้ผู้ใช้งาน Export ไฟล์ประวัติการทำธุรกรรม Bitcoin และ Cryptocurrency ในรูปแบบไฟล์ .csv เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษี
- ส่วนขยายเบราว์เซอร์ (Browser extension)
มีส่วนขยายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเข้าถึง dApps, การจัดการ NFT, การ swap และการทำ staking สินทรัพย์
ข้อดีและข้อเสียของ Exodus Wallet
ข้อดี:
- การตั้งค่าง่าย: ง่ายต่อการตั้งค่าบนเดสก์ท็อป, เบราว์เซอร์ หรืออุปกรณ์มือถือด้วย Seed Phrase 12 คำ
- มีทีมซัพพอร์ต: มีการสนับสนุนลูกค้าผ่านแชท, อีเมล, หน้าช่วยเหลือ และบทความเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย
- การอัปเดตและการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ: มีการอัปเดตและรายงานความปลอดภัยทุกสองสัปดาห์ โดยต้องอัปเดตด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- รองรับการทำ Staking: อนุญาตให้ผู้ใช้งาน Staking Cryptocurrency โดยตรงผ่านกระเป๋าเงิน
ข้อเสีย:
- ขาด 2FA: ผู้ใช้ต้องพึ่งพารหัสผ่านของตนเองเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ซึ่งอาจเสี่ยงหากรหัสผ่านถูกเปิดเผย
- ไม่เป็นโอเพนซอร์ส: โค้ดซอฟต์แวร์ไม่สามารถเข้าถึงหรือแก้ไขได้โดยสาธารณะ ซึ่งอาจถูกมองว่าขาดความโปร่งใสและป้องกันการตรวจสอบความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของกระเป๋าเงิน
4. Sparrow - กระเป๋าที่มีความปลอดภัยมาก

ที่มาของภาพ https://sparrowwallet.com/features/
Sparrow Wallet เป็น Bitcoin Wallet ที่ปลอดภัยมาก โดย Sparrow Wallet เน้นไปที่สิ่งสำคัญหลัก ๆ คือ ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และสามารถการควบคุมโดยผู้ใช้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการการถือครอง Bitcoin ของตนด้วยระดับของความเป็นอิสระและความโปร่งใสที่สูงแต่ยังขาดการรองรับบนมือถือ
คุณสมบัติหลักของ Sparrow
- รองรับกระเป๋าเงินแบบ Single และ Multi-sig Wallet: รองรับทั้งกระเป๋าเงินแบบปกติวและแบบหลายลายเซ็นบนประเภทสคริปต์ทั่วไป รวมถึง Legacy, SegWit และ Taproot
- รองรับ Hardware Wallet : เข้ากันได้กับ Hardware Wallet หลากหลาย เช่น OneKey, Ledger, Trezor, Coldcard และอื่น ๆ
- กระเป๋าเงินแบบดูอย่างเดียว (Watch-only): อนุญาตให้สร้างกระเป๋าเงินแบบดูเท่านั้นโดยใช้ xPub
- รองรับ PSBT: รองรับ Partially Signed Bitcoin Transactions (PSBTs) อย่างเต็มที่ ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยกับ Hardware Wallet แบบ air-gapped
ข้อดีและข้อเสียของ Sparrow
ข้อดี:
- การเข้ารหัสที่แข็งแรง, การรองรับ Tor และการใช้งานที่ไม่ใช่บนเบราว์เซอร์ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
- ความโปร่งใสและความไว้วางใจของชุมชนผ่านโค้ดโอเพนซอร์ส
- ตัวเลือกในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สาธารณะ, Bitcoin Core หรือเซิร์ฟเวอร์ Electrum ส่วนตัว
- เฉพาะ Bitcoin ซึ่งจำกัดช่องโหว่ที่มาจากเหรียญอื่นๆ
ข้อเสีย:
- เฉพาะ Bitcoin ซึ่งจำกัดการใช้งานเฉพาะธุรกรรม Bitcoin เท่านั้น
- ไม่มีการรองรับบนมือถือ จำกัดการใช้งานเฉพาะบนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป
- ไม่รองรับ Lightning Network ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำธุรกรรมนอกเชนที่เร็วขึ้น
ตารางเปรียบเทียบแต่ละ Bitcoin Wallet

Reference
https://www.businessinsider.com/personal-finance/investing/best-bitcoin-wallet