ช่วงต้นปี 2024 ตลาดคริปโตเริ่มกลับมาคึกคักกันแล้ว หลังจากหมีจำศีลอยู่นาน จากหลาย ๆ เหตุการณ์อย่างเช่น Exchange ปิดตัวลงทำถอนเหรียญออกไม่ได้ ทำให้ทั้งมือใหม่และมือเก๋าหันมาให้ความสำคัญเรื่องการเก็บ digital assets โดยใช้ Non-custodial wallets อย่าง Software wallet เช่น MetaMask หรือ OKX wallet เป็นต้น หรือที่ปลอดภัยขึ้นมาอีกระดับ คือ Hardware wallet ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์สามารถเลือกตามการใช้งานของเราได้
ซึ่งหลายคนยังไม่เคยใช้ Hardware wallet มาก่อนก็ยังอาจจะไม่แน่ใจว่า เราเองควรซื้อ Hardware wallet แบบไหนดี? วันนี้แอดเลยคัด 5 Hardware wallet ที่คิดว่าเหมาะกับมือใหม่ ใช้งานได้ง่าย ราคาไม่สูงมาก ใช้เวลาศึกษาไม่นาน คัดมาแบบเน้น ๆ มาฝากกันครับ
เกณฑ์ในการใช้คัดเลือก Hardware wallet ที่ใช้งานง่าย ได้แก่
1. Open source code firmware
Source Code Firmware คือ ที่พัฒนาตัว Hardware Wallet ว่าเปิดเผยให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้หรือไม่
เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและทุกคนสามารถร่วมกันตรวจสอบ Source Code ของ Hardware Wallet ได้ และทุกตัวที่แอดคัดมาจะ Open source หั้งหมดครับ
2. มีแอพพิเคชันในการใช้งาน
การที่มีแอพพิเคชันในการใช้งาน ส่วนนี้จะตอบโจทย์มือใหม่มาก ๆ ครับ หากต้องการดู Portfolio โอนเหรียญ รับเหรียญ ก็สามารถทำบนแอพได้เลยผ่านไม่จำเป็นต้องใช้งานผ่าน Software wallet อย่าง เช่น MetaMask หรือ OKX wallet อาจจะดูยุ่งยากสำหรับมือใหม่ครับ
3. ราคาน้อยกว่า 4,000 บาท
โดยส่วนตัวแอดมองว่า หากต้องการซื้อ Hardware wallet สักตัวมาใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้ง่าย ๆ เริ่มต้นราคาประมาณไม่เกิน 10% ของ digital assets ที่เราถือ ซึ่งหากราคาที่ไม่เกิน 4,000 บาท ถือว่ายังไม่สูงมากเกินไปสำหรับการถือ Private key ด้วยตนเอง แทนการเก็บไว้ที่ exchange แบบยาว ๆ ซึ่งทุกตัวนั้นได้คัดมาแล้วว่าราคาต่ำกว่า 4,000 บาทครับ แต่หากสั่งจาก Official website โดยตรง อย่าลืมดูเรื่องภาษีนำเข้านะครับ แอดคัดจากราคาหน้าเว็บที่เป็น USD มานะครับ
อาจจะมีตัวที่ดีกว่านี้ สามารถแนะนำกันเข้ามาได้เลยนะครับ เริ่มกันที่ตัวแรกกันเลยครับ
1. SafePal X1 Hardware wallet ราคา $69.99 USD
SafePal X1
มองรูปร่างหน้าตาของ Safepal X1 ครั้งแรกนึกถึงตัว Hardware Wallet อีกยี่ห้อนึงชื่อ COLDCARD ที่ Geek Bitcoiner นิยมใช้กัน เอาจริงๆ ผมว่าหน้าตาเหมือนเครื่องคิดเลขมาก หน้าจอเป็นแบบ Mono Chrome จอเล็กกว่า Safepal S1 แล้วก็ไม่ได้เป็นจอสีเหมือน Safepal S1 ตัว Secure Element Chip ยังเป็นมาตรฐาน CC EAL5+ ถ้าอย่างใน Trezor Safe 3 หรือ OneKey Classic จะเป็น CC EAL6+ เชื่อมต่อกับมือถือด้วยบลูทูธ 5 ตัวเคสทำมาจากพลาสติก ABS เท่าที่ผมดูอย่างอื่นก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่นอกจากเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่อกับมือถือจาก Air-Gap มาเป็นบลูทูธ
เหมาะกับใคร?
Safepal X1 ยังคงน่าสนใจสำหรับสายฟาร์ม สาย DeFi เพราะซอฟต์แวร์บนมือถือของ Safepal ไม่ใช่เพราะ Safepal X1 เอง การพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในการที่จะใช้ร่วมกับ DApp อาจจะไม่ได้เหมาะกับสาย Hodler Bitcoin สักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือ กระแสกดดันเรื่อง Open Source มากกว่าที่ทำให้ Safepal ปรับตัวเองจากที่เคยเป็น Close Source มาเป็น Open Source ได้
รายละเอียดเกี่ยวกับ SafePal X1 hardware wallet
แอพพิเคชัน: ใช้งานผ่าน Desktop และ Mobile ได้ โดย SafePal App
ขนาด: 8.6cm x 5.4cm x 0.6cm
ขนาดหน้าจอ: 1.8 นิ้ว monochrome screen
ราคา: $69.99 (ประมาณ 2,400 บาท)
2. OneKey mini hardware wallet ราคา 2,400 บาท
OneKey mini hardware wallet
น้องเล็กขนาดกะรัด จากค่าย OneKey ค่ายน้องใหม่ที่ใช้ Source code ของ Trezor มาพัฒนา Hardware wallet ต่อ ซึ่งระดับความปลอดภัยเทียบเท่า Trezor ครับ ไม่มีแบตเตอรี่ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานกับมือถือได้ จะสามารถใช้งานผ่านการเสียบสาย USB กับคอมพิวเตอร์อย่างเดียวครับ ที่สามารถได้บน Desktop หากต้องการดู Portfoli จะต้องโหลดแอพ Poftfolio tracking มาดูแทนครับ OneKey App ถือว่าออกแบบที่ใช้งานง่ายครับ ก่อนซื้อ hardware wallet สามารถลองใช้งานผ่าน OneKey App กันก่อนได้นะครับ
เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน Hardware wallet งบไม่เยอะ เน้นถือยาว ไม่ต้องการใช้งานบ่อย ๆ แนะนำ OneKey Mini สามารถซื้อได้ที่นี่ครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับ OneKey mini hardware wallet
แอพพิเคชัน: ใช้งานผ่าน Desktop โดย OneKey App
ขนาด: 71 × 34 × 6.8 มม.
ขนาดหน้าจอ: 1.3 นิ้ว Monochrome OLED
ราคา: 2,400 บาท
3. Trezor Model One hardware wallet ราคา $59 USD
Trezor Model One
Trezor one ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของ Trezor หลายคน ๆ ก็ยังใช้งานกันอยู่ รวมถึงแอดด้วย ถือว่าเป็น hardware wallet ตัวแรกที่ซื้อเมื่อ 3 ปีที่แล้วเลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังใช้งานได้ตามปกติ มีแค่สาย USB พังไปเพราะแอดดึงแรงไปเท่านั้นเองครับ ตัวนี้จะไม่แบตเตอรี่ ไม่สามารถใช้งานกับมือถือได้นะครับ (ยกเว้นมือถือรุ่น Android สามารถใช้กับ Trezor model one ได้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แจ้งเข้ามาครับ)ใช้งานผ่านการเสียบสาย USB กับคอมพิวเตอร์และมือถือรุ่น Android ครับ แต่สามารถดู Portfolio บนมือถือผ่านแอพ Trezor Suite Lite ได้นะครับ
เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน Hardware wallet งบไม่เยอะ ใช้งานผ่านคอมพิเตอร์เป็นหลัก สามารถดู Portfolio ผ่านมือถือได้ สามารถซื้อได้ที่นี่ครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับ Trezor Model One hardware wallet
แอพพิเคชัน: ใช้งานผ่าน Desktop และดู Portfolio ได้ โดย Trezor Suite Lite (ยกเว้นมือถือรุ่น Android สามารถใช้กับ Trezor safe 3 ได้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แจ้งเข้ามาครับ)
ขนาด: 60x30x6 มม.
ขนาดหน้าจอ: 0.96 นิ้ว Monochromatic OLED screen
ราคา: $59.99 (ประมาณ 2,300 บาท)
4. OneKey Classic 1S hardware wallet ราคา 3,990 บาท
OneKey Classic 1S
สำหรับ Onekey Classic 1S ถือว่าเป็นรุ่นที่ขายดีมาก ๆ อีกรุ่นหนึ่งครับ ถึงแม้จะเป็นน้องใหม่ แต่ออกแบบแอพมาได้ใช้งานง่ายมากครับ น่าใช้งานมากครับ รองรับภาษาไทยด้วยนะครับ รุ่นนี้สามารถใช้งานบนมือถือได้ครับ เชื่อมต่อกับมือถือผ่านบลูทูธ และสามารถดู Portfolio โอนเหรียญ รับเหรียญ ใช้งาน DApp ครบจบบนแอพบนมือถือเครื่องเดียวเลยครับ สามารถใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ได้โดยสาย USB ได้เลยครับ ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านบูลทูธได้ครับ
แต่ยังติดเรื่องการใช้งาน MetaMask Mobile อยู่ครับ หากใครต้องการใช้งาน MetaMask Mobile อาจจะต้องเพิ่มงบอีกนิดไปที่ Keystone 3 Pro แทนครับ หากใครสนใจ Keystone 3 Pro อ่านที่นี่ต่อได้ครับ
เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน Hardware wallet และต้องการใช้งานบนมือถือด้วย ใช้รับเหรียญ โอนเหรียญ Swap เหรียญบ้าง แต่ไม่ได้ใช้สาย Wallet mobile สักเท่าไหร่ แนะนำ OnKey Classic 1S ครับ ซื้อที่นี่ครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับ OneKey mini hardware wallet
แอพพิเคชัน: ใช้งานผ่าน Desktop โดย OneKey App
ขนาด: 86 × 52 × 5.2 มม.
ขนาดหน้าจอ: 1.5 นิ้ว OLED
ราคา: 3,990 บาท
5. Trezor Safe 3 hardware wallet ราคา $79 USD
Trezor Safe 3
สำหรับ Trezor Safe 3 เป็น hardware wallet ตัวใหม่ของ Trezor รุ่นนี้มี Secure Element Chip เป็นสิ่งที่เอาไว้สำหรับเก็บข้อมูลที่สำคัญอย่าง Master Private Key(Seed phrase)
Trezor Safe 3 เป็น Hardware Wallet ส่วนผสมผสานระหว่าง Trezor One ที่อัพเกรดแล้วใส่ไส้ในบางอย่างของ Trezor Model T เข้าไปครับ อธิบายง่าย ๆ คือ Trezor Safe 3 ก็คือ Trezor One ที่ใส่ Secure Element Chip และ ใส่ฟังชั่น Shamir Backup ที่มีอยู่ใน Hardware Wallet Trezor Model T เข้าไปนั่นเอง เหรียญที่รองรับรองรับมากกว่า Trezor One รองรับได้พอๆ กับ Trezor Model T
Trezor Safe 3 ตัวนี้จะไม่แบตเตอรี่ ไม่สามารถใช้งานกับมือถือได้นะครับ ( ยกเว้นมือถือรุ่น Android สามารถใช้กับ Trezor safe 3 ได้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แจ้งเข้ามาครับ) ใช้งานผ่านการเสียบสาย USB สามารถดู Portfolio บนมือถือผ่านแอพ Trezor Suite Lite ได้นะครับ
เหมาะกับใคร?
ถ้าใครที่เป็นสายเก็บระยะยาวแล้วก็ไม่ค่อยได้ยุ่งอะไรกับมันมาก แอดแนะนำซื้อเลย คุ้ม Trezor ได้ออกตัวแอพพลิเคชั่นบนมือถือซึ่งสามารถเอาไว้ติดตาม Portfolio ของเราได้ ชื่อว่า Trezor Suite Lite ด้วยการใช้ XPUB เพื่อติดตามตัว portfolio ของเราทั้งหมด สามารถซื้อได้ที่นี่ครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับ Trezor Model One hardware wallet
แอพพิเคชัน: ใช้งานผ่าน Desktop และดู Portfolio ได้ โดย Trezor Suite Lite มือถือรุ่น Android สามารถใช้กับ Trezor safe 3 ได้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แจ้งเข้ามาครับ
ขนาด: 59x32x7.4 มม.
ขนาดหน้าจอ: 0.96 นิ้ว Monochromatic OLED screen
ราคา: $79.99 (ประมาณ 3,000 บาท)
สรุปสำหรับการเลือกซื้อ Hardware wallet สำหรับมือใหม่ แบบสั้น ๆ ครับ
ควรคำนึงถึงการใช้งานของตัวเองเป็นอันดับแรกครับ
เน้นใช้งานกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก แนะนำ 3 รุ่นครับ
- OneKey mini hardware wallet
- Trezor Model One hardware wallet ( ยกเว้นมือถือรุ่น Android สามารถใช้ได้)
- Trezor Safe 3 hardware wallet (ยกเว้นมือถือรุ่น Android สามารถใช้กับ Trezor safe 3 ได้ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แจ้งเข้ามาครับ)
เน้นใช้งานกับมือถือเป็นหลัก แนะนำ 4 รุ่นครับ
- SafePal X1 hardware wallet
- OneKey Classic 1S hardware wallet
- Trezor Model One hardware wallet ( ยกเว้นมือถือรุ่น Android สามารถใช้ได้)
- Trezor Safe 3 hardware wallet (รองรับเฉพาะมือถือรุ่น Android ครับ)
เป็นยังไงบ้างครับ เจอ Hardware wallet ตัวที่เหมาะกับการใช้งานของตนเองไหมครับ? หากต้องการเลือกรุ่นเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ได้เลยครับ