
8 ยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่เก็บ Bitcoin หรือเปล่า!?
Share
เทรนด์ Bitcoin Treasury กำลังร้อนแรงในปี 2025 หลายบริษัทใหญ่เริ่มนำ Bitcoin มาใช้เป็นทุนสำรอง แต่ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งที่มี “เงินสดมหาศาล” แต่ยังไม่เข้ามาในโลก Bitcoin เลย
วันนี้เราจะมาดูกันว่าใครบ้างที่ยังไม่เข้า และถ้าพวกเขาเข้ามาจริง จะส่งผลอย่างไรกับราคาตลาด
บริษัทไหนที่ยังไม่เข้า Bitcoin บ้าง?
1. Berkshire Hathaway – บริษัทที่ถือเงินสดมากที่สุด
• ทำธุรกิจอะไร: บริษัทลงทุนของ Warren Buffett ที่ถือหุ้นใน Apple, Coca-Cola, American Express ฯลฯ
• เงินสด: ประมาณ 189 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูลไตรมาส 1 ปี 2024)
• ปัญหา: Warren Buffett เคยเปรียบ Bitcoin ว่าเป็น “ยาพิษหนู”
• โอกาส: เขาอายุมากแล้ว — ทายาทหรือผู้บริหารรุ่นใหม่อาจมีมุมมองที่ต่างออกไป
💻 บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่เข้า
2. Microsoft – เงินสดราว 76 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: พัฒนา Windows, Office, Xbox, Azure Cloud
• ผู้ถือหุ้นโหวต “ยังไม่เข้า” เมื่อปลายปี 2024
• Michael Saylor เคยออกมาพูดเชิญชวนอย่างเปิดเผย
• ตอนนี้ยังเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล
3. Apple – เงินสดประมาณ 62 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: ผู้ผลิต iPhone, iPad, Mac และบริการต่างๆ ทั่วโลก
• มีเงินสดเยอะสุดในกลุ่มบริษัทเทค
• แต่ยังไม่มีท่าทีสนใจ Bitcoin อย่างเป็นทางการ
4. Google (Alphabet) – เงินสดรวมมากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: เจ้าของ Google, YouTube, Android, Gmail, Google Cloud
• เคยมีข่าวว่าศึกษา Bitcoin แล้ว แต่ยังไม่ลงมือจริง
• มีแนวโน้มเน้นความปลอดภัยและการกระจายความเสี่ยง
5. Amazon – เงินสดประมาณ 89 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: ยักษ์ e-commerce และให้บริการ cloud (AWS)
• เคยมีผู้ถือหุ้นเสนอให้จัดสรร 5% ของเงินสดเข้า Bitcoin
• แต่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนจากบริษัท
6. Meta (Facebook) – เงินสดประมาณ 53 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: เจ้าของ Facebook, Instagram, WhatsApp, และลงทุนด้าน VR/AR
• ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเข้าซื้อ Bitcoin
🏭 บริษัทใหญ่อื่นๆ
Samsung – เงินสดประมาณ 83 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: เทคโนโลยีครบวงจรจากเกาหลี — มือถือ, ชิป, ทีวี, เครื่องใช้ไฟฟ้า
• มีบทบาทด้านเทคโนโลยีระดับโลก แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวด้าน Bitcoin
Intel – เงินสดประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์
• ธุรกิจ: ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่
• เคยผลิตชิปที่ใช้ในการขุด Bitcoin แต่บริษัทเองยังไม่ถือ Bitcoin
ถ้าเข้าจริงจะส่งผลยังไง?
ลองคำนวณดูแบบคร่าวๆ
หากบริษัทยักษ์เหล่านี้จัดสรรเงินสดเข้าสู่ Bitcoin
-
1% → เงินไหลเข้า 8.4 พันล้านดอลลาร์ → ราคาอาจพุ่ง +0.4%
-
5% → เงินไหลเข้า 42 พันล้านดอลลาร์ → ราคาอาจพุ่ง +2.1% (มากกว่าปริมาณซื้อขายรายวันทั่วโลก!)
-
10% → เงินไหลเข้า 84 พันล้านดอลลาร์ → ราคาอาจพุ่ง +4.2%
หมายเหตุ: ปริมาณซื้อขาย Bitcoin ต่อวันอยู่ราว 32 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูลปี 2025)
ทำไมยังไม่เข้าล่ะ?
🚫 เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ลังเล
1. ความผันผวนสูง
ราคาขึ้นลงเร็วและแรง ทำให้การรายงานงบการเงินผันผวน
2. ช่องว่างทางความเข้าใจ
คณะกรรมการส่วนมากอายุมาก ยังไม่เข้าใจ Bitcoin อย่างลึกซึ้ง
3. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ
• หลายประเทศยังไม่มีกรอบกฎหมายที่ชัดเจน
• ประเด็น ESG และการใช้พลังงานยังเป็นที่ถกเถียง
4. ความระมัดระวังแบบองค์กร
• ชอบสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาล
• ยังไม่อยากเป็น "คนแรก" ที่ลงสนาม
แล้วอะไรจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจ?
🔄 ปัจจัยที่อาจเร่งการเปลี่ยนแปลง
1. การสนับสนุนจากภาครัฐ
• เช่น นโยบายของอดีต ปธน. Donald Trump ที่เสนอให้จัดทำ Strategic Bitcoin Reserve
• ความชัดเจนด้านกฎหมายกำลังคืบหน้า
2. ผลลัพธ์จากบริษัทอื่น
• MicroStrategy ทำกำไรจาก Bitcoin จนราคาหุ้นแซง Microsoft ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (+313%)
• บริษัทที่เข้าก่อนอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นตาม
3. การเปลี่ยนผู้นำ
• CEO รุ่นใหม่มักเปิดกว้างกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า
ผลกระทบต่อตลาดจะเป็นยังไง?
📈 เอฟเฟกต์ลูกโซ่ที่อาจเกิดขึ้น
Supply Shock
• เงินสดจำนวนมากจะลดปริมาณ Bitcoin ที่หมุนเวียน → ราคาเพิ่มขึ้น
FOMO Effect
• บริษัทใหญ่เข้า → บริษัทอื่นรีบตาม → ตลาดมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
โฉมหน้าใหม่ของตลาด
• จากคนทั่วไปถือ Bitcoin → กลายเป็นบริษัทใหญ่ถือ
• ความมั่นคงของตลาดเพิ่มขึ้น ความผันผวนน้อยลง
🎯 ใครจะเป็นรายแรก?
เรียงตาม “ความเป็นไปได้” ที่จะเข้าสู่ Bitcoin:
-
Amazon – ผู้ถือหุ้นเสนอแล้ว
-
Microsoft – มีแรงผลักจากนักลงทุนสายบิทคอยน์
-
Berkshire Hathaway – อนาคตขึ้นกับผู้สืบทอด
-
Samsung – เอเชียกำลังเปิดรับมากขึ้น
-
Google – ศึกษาไว้แล้ว เหลือแค่ตัดสินใจ
แล้วเราควรทำยังไง?
📊 เตรียมตัวให้พร้อม
1. ติดตามข่าวสาร
• ประชุมผู้ถือหุ้น / การพูดของ CEO
• การเปลี่ยนแปลงในฝ่ายบริหารหรือกลยุทธ์
2. วางแผนลงทุนอย่างมีสติ
• เก็บ Bitcoin ไว้บางส่วน (ไม่ควรเก็บทั้งหมด)
• เตรียมใจรับความผันผวนระยะสั้น
3. บริหารความเสี่ยงให้ดี
• อย่าคาดหวังผลลัพธ์ระยะสั้น
• กระจายการลงทุน
• ใช้เงินที่เสียแล้วไม่เจ็บ
⚠️ คำเตือนก่อนลงทุน
• บทความนี้คือการวิเคราะห์ ไม่ใช่คำแนะนำลงทุน
• ตลาด Crypto ผันผวนสูงมาก อาจกำไรเร็ว หรือขาดทุนหนัก
• ข้อมูลบางส่วนเป็นแนวโน้ม ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว
• ศึกษาก่อนลงทุน อย่าเชื่อใครง่ายๆ รวมถึงบทความนี้
• ใช้เงินเย็นลงทุน อย่าเอาเงินค่าข้าว ค่าเช่าบ้านมาลงทุน
• กระจายความเสี่ยง ไม่ควรใส่เงินทั้งหมดใน Bitcoin
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ
สรุปง่ายๆ
บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้เปรียบเสมือน “ยักษ์ใหญ่ที่กำลังหลับ” ในโลก Bitcoin หากพวกเขาเพียงแค่หันมาถือ Bitcoin แม้เพียง 1–5% ของเงินสดสำรอง ก็อาจทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
นี่ไม่ใช่คำถามของ “ถ้าจะเข้า” แต่เป็นคำถามของ “เมื่อไหร่จะเข้า” เพราะแรงกดดันจากผู้ถือหุ้น, ความสำเร็จของ MicroStrategy, และท่าทีของรัฐบาล กำลังเร่งการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด
ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ และลงทุนอย่างมีวินัยครับ
ที่มาของข้อมูล
💵 Berkshire Hathaway – เงินสดสะสม
-
รายงาน Q1/2025 แจ้งว่า Berkshire Hathaway มีเงินสดสะสมสูงถึง 347.7 พันล้านดอลลาร์ (livemint.com)
🍎 Apple – เงินสดในมือ
-
รายงาน Macrotrends ระบุว่า ณ วันที่ 31 มี.ค. 2025 Apple มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นประมาณ 48.5 พันล้านดอลลาร์ (macrotrends.net)
📈 MicroStrategy vs. Microsoft – ผลตอบแทนหุ้น
-
ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2020 ถึงมิ.ย. 2025
-
MicroStrategy ให้ผลตอบแทนประมาณ +2,838%
-
Microsoft ให้ผลตอบแทนประมาณ +162% (statmuse.com)
นอกจากนี้ ข้อมูลในปี 2025 (เริ่มมกราคม) แสดงว่า MSTR โต +24.8% ในขณะที่ MSFT โต +11% (statmuse.com)