สารบัญ


คู่มือการเริ่มต้นใช้งาน OneKey Classic 1S

คู่มือฉบับนี้เป็นคู่มือที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเริ่มต้นใช้งาน OneKey Classic 1S ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 

1. คำแนะนำเบื้องต้นและสิ่งที่ต้องมี

ข้อควรระวังก่อนเริ่มใช้งาน

ก่อนเริ่มกระบวนการตั้งค่า สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบบรรจุภัณฑ์และซีลโฮโลแกรม (Holographic Seal) เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของเราไม่ถูกแกะโดยผู้อื่น หากพบร่องรอยของการปลอมแปลงใด ๆ ให้งดใช้อุปกรณ์ทันที และติดต่อ Bitcast เพื่อขอความช่วยเหลือและดำเนินการเปลี่ยนอุปกรณ์ทันที

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • อุปกรณ์ OneKey Classic 1S
  • แอปพลิเคชัน OneKey App ที่ดาวน์โหลดและติดตั้งแล้ว (สำหรับ Desktop, Browser Extension, หรือ Mobile)
  • แผ่นสำหรับจด Recovery Phrase (Seed Phrase) ที่มาพร้อมในกล่อง
  • ปากกาสำหรับจด Seed Phrase

2. ขั้นตอนการตั้งค่าอุปกรณ์ (Device Initialization)

ขั้นตอนที่ 1 ถึง 4 นี้ เป็นการตั้งค่าบนอุปกรณ์ OneKey Classic 1S โดยตรง ซึ่งใช้ได้กับการเชื่อมต่อทั้งแบบ Desktop และ Smartphone

ขั้นตอนที่ 1 เปิดเครื่องและเลือกภาษา

  • กดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องค้างไว้จนกว่าคำว่า “Power on” จะปรากฎเพื่อเปิด OneKey Classic 1S
  • เลือกภาษาที่คุณต้องการตามคำแนะนำบนหน้าจอ แนะนำเลือก “English”
  • กดปุ่มขวาบน OneKey Classic 1S เพื่อดำเนินการต่อ
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

ขั้นตอนที่ 2 สร้างกระเป๋าใหม่ (Create a New Wallet)

  • เลือกเมนู "Create New Wallet" เพื่อสร้างกระเป๋าเงินใหม่
  • เลือกจำนวนคำของ Recovery Phrase (เช่น 12 หรือ 24 คำ)
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • ใช้แผ่นบันทึก Seed phrase จดบันทึก 12/24 คำ ตามที่แสดงบนหน้าจอ
  • จดบันทึกคำศัพท์ "Word #1" ให้ถูกต้องทั้งลำดับและคำศัพท์
  • ทำซ้ำขั้นตอนนี้จนครบตามจำนวนของคำ 12-24 คำตามที่เราได้เลือกไปก่อนหน้า
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

ข้อแนะนำด้านความปลอดภัย (Seed Phrase)

  • Recovery Phrase (หรือ Seed Phrases) ต้องเก็บรักษาให้ดีเนื่องจากเปรียบเสมือนกุญแจดอกเดียวที่สามารถกู้คืนสินทรัพย์ของเราได้
  • ห้ามทำสำเนาดิจิทัล (Digital Copy) ของ Seed Phrases และห้ามอัปโหลดออนไลน์โดยเด็ดขาด
  • เก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัยที่สุดและไม่ควรมีใครเข้าถึงได้นอกจากบุคคลที่เราไว้ใจ

ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบและยืนยัน Recovery Phrase

  • เมื่อหน้าจอแสดง "Check Words Again" ให้ตรวจสอบและเปรียบเทียบคำที่จดไว้บนแผ่นบันทึก Seed Phrase กับคำที่แสดงบนอุปกรณ์ OneKey ว่าลำดับและคำตรงกันหรือไม่
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • เมื่อตรวจสอบและยืนยันคำ Recovery Phrase ทีละคำโดยการเลือกคำที่ถูกต้องเมื่ออุปกรณ์ถาม
  • ทำซ้ำขั้นตอนนี้จนกว่าจะปรากฏข้อความ "Awesome! Your backup is complete."
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

ขั้นตอนที่ 4 ตั้งค่ารหัส PIN (Set a PIN Code)

  • ตั้งรหัส PIN (ตัวเลข 4 ถึง 9 หลัก) เพื่อใช้ในการปลดล็อกอุปกรณ์ OneKey
  • เลือกตัวเลข PIN (1 ถึง 9 โดยไม่มีเลข 0)
  • หากตั้งค่าเพียง 6 หลัก ให้เลือก ☑️ ในหลักที่ 7 เพื่อยืนยัน
  • ป้อนรหัส PIN ซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยัน
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • เมื่อหน้าจอแสดง "Wallet is ready! Download ...." หมายความว่าการตั้งค่าฮาร์ดแวร์วอลเล็ตเสร็จสมบูรณ์ โปรดทำตามคำแนะนำบนหน้าจอและไปสู่ขั้นตอนต่อไป (ขั้นตอนที่ 5)
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

ข้อแนะนำด้านความปลอดภัย (รหัส PIN)

  • รหัส PIN ใช้สำหรับปลดล็อกอุปกรณ์ OneKey สามารถเปลี่ยนภายหลังได้
  • หากป้อนรหัส PIN ผิด 10 ครั้งติดต่อกัน อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์วอลเล็ตจะถูกรีเซ็ตทั้งหมด
  • ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่มีการตั้งค่ารหัส PIN หรือ Recovery Phrases ไว้ล่วงหน้าแล้ว

3. การเชื่อมต่อกับ Desktop, Smartphone, Extension

ขั้นตอนที่ 5 เชื่อมต่อกับแอป OneKey

  • ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน OneKey App
  • เชื่อมต่อ OneKey Classic 1S เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยใช้ สาย USB (ไม่สามารถใช้ Bluetooth ในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้)
  • สำหรับ Browser Extension จะต้องดาวน์โหลดและติดตั้ง OneKey Bridge (หากใช้ OneKey App เวอร์ชัน Desktop ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง OneKey Bridge)
  • เปิดแอปพลิเคชัน OneKey App Desktop และคลิก "Create wallet"
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • เลือก "Connect hardware wallet"
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • คลิกที่ชื่ออุปกรณ์ (เช่น K1551) 
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • ป้อนรหัส PIN บนอุปกรณ์ OneKey Classic 1S ของเรา
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • ยืนยันบนอุปกรณ์ OneKey Classic 1S เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของอุปกรณ์
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • คลิก "Continue" เมื่อแสดงข้อความ "Verification successful"
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • รอจนกระทั่งแอป OneKey สร้างบัญชีกระเป๋าเงินเสร็จสิ้น
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสอบที่อยู่กระเป๋าเงิน (Check Wallet Address)

  • ในแอป OneKey App Desktop ให้คลิก "Receive" และ "Verify on device"
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • เปรียบเทียบที่อยู่ที่แสดงบนแอป OneKey กับที่อยู่ที่แสดงบนอุปกรณ์ OneKey Classic 1S
  • ยืนยันบนอุปกรณ์หากที่อยู่ทั้งสองตรงกัน
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

เสร็จสิ้นกระบวนการตั้งค่า OneKey Classic 1S และการเชื่อมต่อแอป OneKey 

4. การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน (Smartphones)

ขั้นตอนที่ 5 เชื่อมต่อกับแอป OneKey Mobile

  • ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน OneKey App (เวอร์ชันมือถือ)
  • คลิกที่ชื่อบัญชีและเลือก "Add wallet"
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Bluetooth ของโทรศัพท์เปิดอยู่ และนำอุปกรณ์ OneKey Classic 1S มาไว้ใกล้โทรศัพท์
  • เลือก "Connect hardware wallet"
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • กดปุ่ม "Start connection"
  • แตะที่ชื่ออุปกรณ์ (เช่น K1010) เพื่อดำเนินการต่อ
  • ป้อนรหัสการจับคู่ (Pair Code) ที่แสดงบนฮาร์ดแวร์วอลเล็ตของเราในแอป OneKey เพื่อจับคู่อุปกรณ์
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • ยืนยันบนอุปกรณ์ OneKey Classic 1S เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของอุปกรณ์
  • คลิก "Continue" เมื่อแสดงข้อความ "Verification successful"
  • รอจนกระทั่งแอป OneKey สร้างบัญชีกระเป๋าเงินเสร็จสมบูรณ์
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสอบที่อยู่กระเป๋าเงิน (Check Wallet Address)

  • ในแอป OneKey App Mobile ให้คลิก "Receive"
  • เลือกเหรียญที่คุณต้องการตรวจสอบที่อยู่รับ (เช่น Bitcoin)
  • เลือกประเภทที่อยู่ (Address type)
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S
  • เลือก "Verify on device"
  • เปรียบเทียบที่อยู่ที่แสดงบนแอป OneKey กับที่อยู่บนอุปกรณ์ OneKey Classic 1S
  • ยืนยันบนอุปกรณ์หากที่อยู่ทั้งสองตรงกัน
คู่มือฉบับสมบูรณ์ OneKey Classic 1S

เสร็จสิ้นกระบวนการตั้งค่า OneKey Classic 1S และการเชื่อมต่อแอป OneKey 

ทิ้งข้อความไว้

โปรดทราบว่าความคิดเห็นจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่จะเผยแพร่

เว็บไซต์นี้ได้รับการคุ้มครองโดย hCaptcha และมีการนำนโยบายความเป็นส่วนตัวของ hCaptcha และข้อกำหนดในการใช้บริการมาใช้